วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 39 (ช่วงที่ 5)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ครั้นเวลาค่ำโลซกจึงเอาเนื้อความไปบอกจิวยี่ทุกประการ จิวยี่แจ้งดังนั้นสั่นศีรษะแล้วว่า อันความคิดขงเบ้งนั้นลึกซึ้งหลักแหลมยิ่งกว่าเราสิบส่วน แม้เราไม่คิดอ่านกำจัดเสียให้ได้ ภายหน้าไปก็จะเป็นศัตรูแก่เราใหญ่หลวง โลซกจึงพูดเอาใจว่า บัดนี้การสงครามก็มีอยู่ ท่านจะมาทำดังนี้ไม่ควร แม้ขงเบ้งวุ่นวายไป ความคิดแลกำลังเราก็จะน้อยลง เห็นเมืองกังตั๋งจะเป็นอันตราย จงคิดอ่านรบพุ่งให้ได้ชัยชนะโจโฉแล้ว ภายหลังถึงจะทำการประการใดก็จะได้โดยง่าย จิวยี่เห็นชอบด้วยก็ให้ตั้งทัพเรือมั่นอยู่

"สามก๊ก" ตอนที่ 39 (ช่วงที่ 4)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ครั้นเวลาเช้าจิวยี่ให้หาจูกัดกิ๋นเข้ามาแล้วว่า ขงเบ้งน้องท่านเป็นคนมีสติปัญญา เหตุใดจึงไปฝากตัวด้วยเล่าปี่นั้นหาควรไม่ ชอบแต่จะมาอยู่ด้วยซุนกวนนายเรา ก็จะมียศถาศักดิ์เป็นสุขอีก ท่านจงไปว่ากล่าวปลอบโยนขงเบ้งน้องท่านให้ทิ้งเล่าปี่เสียเถิด มาอยู่ทำราชการแผ่นดินเดียวกันกับเรา ทั้งตัวท่านก็อยู่ที่นี่พี่น้องจะได้เห็นหน้ากันเช้าค่ำจะมิดีหรือ จูกัดกิ๋นจึงว่า ข้าพเจ้ามาอยู่ด้วยซุนกวนนี้ก็ยังหามีความชอบสิ่งใดไม่ ถ้ากระนั้นข้าพเจ้าจะไปว่ากล่าวน้องข้าพเจ้าให้มาอยู่ด้วยท่านเป็นความชอบไว้ จูกัดกิ๋นคำนับแล้วก็ขึ้นม้ารีบมาหาขงเบ้งถึงที่อยู่ ขงเบ้งเห็นจูกัดกิ๋ผู้พี่มาดังนั้นก็ดีใจออกไปคำนับแล้วพากันเข้ามาข้างในต่างคนต่างก็ร้องไห้รักกันด้วยจากมาช้านาน

"สามก๊ก" ตอนที่ 39 (ช่วงที่ 3)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ซุนกวนจึงว่า เมื่อคนทั้งปวงปรึกษาฉะนี้ท่านไม่เห็นด้วยนั้นจะให้ทำประการใดเล่า จิวยี่จึงว่า อันโจโฉนี้เป็นที่มหาอุปราชนั้น คือเป็นศัตรูแผ่นดินของพระเจ้าเหี้ยนเต้อีก แลตัวท่านก็มีปัญญาความคิดตั้งอยู่ในสัตย์สุจริต แลจะไปอ่อนน้อมแก่โจโฉอันเป็นคนมิได้ตั้งอยู่ในความสัตย์นั้นจะควรหรือ อนึ่งเมืองกังตั๋งก็บริบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร ทั้งผู้คนก็พรักพร้อม ชอบแต่จะคิดกำจัดศัตรูแผ่นดินเสียอีก อนึ่งโจโฉยกกองทัพมาครั้งนี้ก็นานแล้ว ฝ่ายม้าเท้งแลหันซุยนั้นก็เป็นอริเห็นจะระวังหลังอยู่ ประการหนึ่งทหารโจโฉก็เป็นชาวดอนไม่สันทัดในทางเรือ ถึงจะยกมารบพุ่งก็หาถนัดไม่ แล้วก็เป็นฤดูแล้ง หญ้าแลฟางทั้งปวงก็เห็นไม่พอปากม้าที่จะกิน อันทหารทั้งปวงเล่าก็เป็นชาวป่า จะกินอยู่ผิดสำแดงก็จะป่วยไข้เป็นอันมาก กำลังก็จะน้อยลงทุกที ถึงจะทำการขับเคี่ยวไปก็เสียเปรียบเราอยู่ อันการศึกครั้งนี้ข้าพเจ้ามิได้วิตกเลย จะขออาสาท่านยกไปตั้งอยู่ปากอ่าวเมืองกังแฮกำจัดเสียให้ได้

"สามก๊ก" ตอนที่ 39 (ช่วงที่ 2)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ครั้นเวลาเย็นโลซกก็พาขงเบ้งมาหาจิวยี่ จิวยี่ให้นั่งโดยสมควร โลซกจึงถามจิวยี่ว่า บัดนี้โจโฉคิดจะทำร้าย เราจะคำนับดีหรือจะทำประการใด ขอท่านว่าให้แจ้ง จิวยี่จึงว่า อันโจโฉทำการทั้งนี้ถือเอารับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้เป็นใหญ่ ครั้นจะขัดแข็งอยู่เล่า ก็เหมือนคิดคดต่อแผ่นดิน อนึ่งทหารโจโฉก็มากล้วนมีฝีมือเข้มแข็งนัก ฝ่ายเราก็น้อยตัวเห็นจะสู้โจโฉมิได้ ถ้าเราออกไปนบนอบโจโฉนั้นจะมีความสุข เราเห็นฉะนี้เป็นมั่นคง เวลาพรุ่งนี้จะเข้าไปว่าแก่ซุนกวนให้แต่งคนออกไปคำนับตามประเพณี โลซกได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่าท่านเจรจาฉะนี้ผิดนัก แลแผ่นดินเมืองกังตั๋งได้ว่าราชการสืบกันมาจนถึงสามชั่วคนแล้วก็มิได้อ่อนน้อมต่อผู้ใด ครั้งนี้ท่านจะให้ออกแก่โจโฉนั้นเห็นประการใด เมื่อซุนเซ็กจะถึงแก่ความตายนั้น ก็ได้สั่งไว้แก่ท่านให้ช่วยทำนุบำรุงซุนกวนผู้น้อง หวังว่าจะให้เมืองกังตั๋งมั่นคงเหมือนได้อิงภูเขา เหตุไฉนเมื่อการมาถึงแล้วท่านจะสลัดเสียมิได้ช่วยทำนุบำรุง จะพลอยตามถ้อยคำคนสอพลอดังนี้ จิวยี่จึงว่า เมืองกังตั๋งนี้มีหัวเมืองใหญ่ขึ้นถึงหกหัวเมือง ผู้คนทั้งปวงก็มากพร้อมมูล ถ้าเราจะลงใจให้ต่อสู้โจโฉบัดนี้ ก็เหมือนหนึ่งทำให้อาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อนจะมีความครหาติเตียนแก่เราผู้เดียว เหตุฉะนี้เราจึงให้ซุนกวนออกไปคำนับโจโฉหวังจะให้อาณาประชาราษฎรมีความสุข

"สามก๊ก" ตอนที่ 39 (ช่วงที่ 1)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายซุนกวนเข้าไปข้างในมีความวิตกนัก มิได้เป็นกินเป็นนอน ให้กระสับกระส่ายอยู่ นางงอก๊กไถ้ซึ่งเป็นแม่น้าจึงถามว่า แต่ก่อนมาเรามิได้เห็นที่จะกระวนกระวาย แลบัดนี้เหตุผลประการใดจึงมิได้เป็นกินเป็นนอน ซุนกวนจึงบอกว่า ข้าพเจ้าทุกข์ร้อนทั้งนี้เพราะรู้ข่าวว่าโจโฉยกกองทัพมาตั้งอยู่ชายทะเลจะมาทำร้ายแก่เมืองเรา ข้าพเจ้าปรึกษาด้วยคนทั้งปวงก็มิได้พร้อมกัน ปรึกษาแก่งแย่งกันอยู่ บ้างจะให้ไปอ่อนน้อมแก่โจโฉนั้นก็มี ที่จะให้ต่อสู้นั้นก็มีข้าพเจ้ามิรู้แห่งที่จะคิดเลย ครั้นจะต่อสู้โจโฉเล่า ทหารเราก็น้อยเห็นจะสู้มิได้ ครั้นจะออกไปอ่อนน้อมก็มิไว้ใจ ความสองประการนี้ข้าพเจ้าคิดมิตก จึงไม่มีความสบาย

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เค้นสิ่งที่ดีที่สุดจากตัวคุณ

By The poetry for you

thepoetry4u.blogspot.com


     ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมีในตอนนี้คือผลสะท้อนจากสิ่งที่คุณต้องการจะมีและความทุ่มเทมุ่งมั่นเพื่อสิ่งเหล่านั้น อริสโตเติล กล่าวว่า “เมื่อคุณกล้าคาดหวัง คุณจะได้รับมัน”

     เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการคุณต้องเริ่มเรียนรู้ที่จะคาดหวังและเรียกร้องสิ่งที่ดีที่สุดจากตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พลังแห่งการตัดสินใจ

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


     เช่นเดียวกับพลังแห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่ในทุกๆ เมล็ดพันธุ์พืชเล็กๆ เราเองมีพลังมหาศาลที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัว การตัดสินใจและความคิดเป็นเหมือนสลักที่จะปลดปล่อยพลังมหาศาลนี้ออกมา เพื่อเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริงโดยต้องเริ่มต้นจากการตัดสินใจก่อนที่จะมีการลงมือหรือการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับชีวิตของใครสักคน ย่อมต้องเริ่มจากการตัดสินใจของคนๆ นั้นเสียก่อน

พลังที่ยิ่งใหญ่ในตัวคุณ

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

     กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเคยมีความฝัน ความฝันที่ยิ่งใหญ่ เคยมีช่วงเวลาที่เราใฝ่ฝันอยากจะเป็นใครสักคน เป็นอะไรสักอย่างหรือเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เดินทางไปรอบโลก หรือต้องการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่บางเรื่อง ฯลฯ แต่โชคร้ายที่เมื่อชีวิตดำเนินไป ผู้คนหลายล้านคนต่างพากันหลงลืมความฝันเหล่านี้ ลืมไปแม้กระทั่งความจริงที่สำคัญว่าเราคือผู้กำหนดชะตาของเราเอง รวมทั้งเป็นผู้กำหนดบทสรุปให้กับตัวเอง

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 10)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขณะนั้นโกะหยงจึงว่า เล่าปี่สู้โจโฉมิได้หนีมาจะคิดเกลี้ยกล่อมขอยืมทหารในเมืองกังตั๋งไปต่อสู้ด้วยโจโฉ เหตุไฉนจึงมาเชื่อถ้อยฟังคำขงเบ้งฉะนี้ ท่านจงตรึกตรองดูตามถ้อยคำเตียวเจียวก่อน
ซุนกวนได้ยินที่ปรึกษาทั้งปวงว่าดังนั้น ก็มิรู้แห่งที่จะว่าประการใด นิ่งอ้ำอึ้งอยู่ เตียวเจียวกับที่ปรึกษาทั้งปวงเห็นซุนกวนนิ่งอยู่ ก็อำลาพากันออกมาโลซกจึงเข้าไปหาซุนกวนว่า เมื่อกี้ที่ปรึกษาทั้งปวงกับเตียวเจียวเข้ามาทัดทานห้ามท่านมิให้คิดอ่านต่อสู้ หวังจะให้ท่านไปอ่อนน้อมแก่โจโฉนั้น ปรารถนาเพื่อจะรักษาครอบครัวของตัวเอาความสุข หาเจ็บร้อนด้วยท่านไม่ ดีแต่จะเรียกลมให้เรือเสีย ขอท่านอย่าได้เชื่อถ้อยคำคนทั้งปวงเลย ซุนกวนได้ฟังโลซกว่าก็นิ่งอยู่ โลซกจึงว่า ซึ่งท่านจะเชื่อถือคนทั้งปวงนั้น นานไปจะได้ความเดือดร้อนเป็นอันมาก

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 9)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ซุนกวนได้ยินขงเบ้งว่าดังนั้น ก็เจ็บใจโกรธลุกขึ้นเดินเข้าไปเสียข้างใน ที่ปรึกษาทั้งปวงเห็นซุนกวนโกรธลุกขึ้นไปดังนั้น ก็ชวนกันหัวเราะเยอะขงเบ้ง โลซกจึงว่าแก่ขงเบ้งว่า ท่านเจรจาหยาบช้าฉะนี้หาควรไม่ นี่หากว่านายเรามีน้ำใจมั่นคงจึงมิได้เอาโทษแก่ท่าน ขงเบ้งหัวเราะแล้วจึงว่า ซึ่งเราว่ากล่าวทั้งนี้ปรารถนาจะใคร่แจ้งว่า นายท่านจะรู้จักคนดีแลชั่วหรือไม่ เมื่อมิได้พิเคราะห์ให้ตระหนักก่อนมาด่วนโกรธฉะนี้ก็จนใจ อันอุบายซึ่งจะกำจัดโจโฉเสียนั้นเราก็คิดได้อยู่แต่ว่ามิได้ไต่ถามก็มิรู้ที่จะเจรจาต่อไป โลซกจึงว่า ถ้าท่านว่ามั่นคงดังนั้น เราก็จะเข้าไปแจ้งแก่นายเราให้กลับออกมาเจรจาด้วยท่าน

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 8)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ซุนกวนจึงถามว่า ทหารโจโฉนั้นจะมีมากน้อยสักเพียงใด ขงเบ้งจึงบอกว่า ทหารโจโฉยกมาครั้งนี้ทั้งทัพบกทัพเรือประมาณร้อยหมื่นเศษ ซุนกวนจึงว่า ซึ่งท่านบอกฉะนี้ยังจะจริงหรือ ขงเบ้งจึงว่า ข้าพเจ้าบอกแก่ท่านทั้งนี้จะได้เท็จหามิได้ แลเมื่อโจโฉแรกได้เมืองเฉงจิ๋ว กุนจิ๋วนั้นได้ทหารไว้ยี่สิบหมื่น ครั้นมารบอ้วนเสี้ยวได้เมืองกิจิ๋ว ก็ได้ทหารเชลยอีกหกสิบหมื่น กลับมาอยู่เมืองฮูโต๋ยังเกลี้ยกล่อมได้ทหารอีกสี่สิบหมื่น แล้วยกมาตีเมืองเกงจิ๋วได้ทหารอีกสามสิบหมื่น เข้ากันเป็นทหารร้อยห้าสิบหมื่น แลข้าพเจ้าบอกแต่ร้อยหมื่นเศษนี้ ก็เพื่อจะเอาน้ำใจชาวเมืองกังตั๋ง ครั้นจะว่ามากนักกลัวทหารทั้งปวงจะเสียน้ำใจ โลซกยืนอยู่ใกล้ได้ยินขงเบ้งบอกดังนั้นก็แลดูตา ขงเบ้งก็แกล้งเมินเสียทำเป็นไม่เห็น ซุนกวนจึงถามว่า ทหารโจโฉที่มีฝีมือเป็นเอกนั้นจะมากสักเท่าใด ขงเบ้งจึงบอกว่ามีอยู่ประมาณสองพัน

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 7)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เทียหยกจึงร้องเข้ามาว่า ขงเบ้งนี้พูดใหญ่หลวงนัก เรากลัวแต่จะไม่เหมือนปากว่า นานไปเบื้องหน้าจะกลับให้เราที่เป็นคนอาการมิได้นี้หัวเราะเย้ยเล่นอีก ขงเบ้งจึงว่า อันลักษณะคนเอาการมิได้นั้นมีสองประการ อันคนเอาการมิได้ที่ดีนั้น ก็ย่อมประกอบด้วยความอุตส่าห์กระทำการสนองคุณเจ้าโดยสุจริตตามสติปัญญา แล้วก็มัธยัสถ์เจียมตัวมิได้ลบหลู่ผู้อื่น ซึ่งเอาการมิได้ที่ชั่วนั้นก็เจรจาโจกเจกเล่น การสักสิ่งหนึ่งก็ทำมิเป็น คนจำพวกนี้ก็ได้ชื่อว่าชั่วนัก ซึ่งท่านจะเก็บเอาคำคนโบราณมาเจรจาด้วยเรานั้นจะโยชน์อันใด เราหาต้องการไม่ ที่ปรึกษาทั้งปวงเห็นขงเบ้งตอบถ้อยคำมิได้เพลี่ยงพล้ำแก่ผู้ใด ต่างคนต่างก็แลดูตากันแล้วก็นิ่งอยู่

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 6)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขณะนั้นยีหวนเห็นเตียวเจียวนิ่งอยู่จึงว่าแก่ขงเบ้งว่า บัดนี้โจโฉยกทหารมาร้อยหมื่น ดุจหนึ่งจะมาเหยียบเมืองกังแฮให้จมเสียในมหาสมุทร ท่านจะคิดอ่านป้องกันประการใดเล่า ขงเบ้งจึงว่าแก่ยีหวนว่า โจโฉยกมาครั้งนี้ท่านกลัวหรือเราหาวิตกไม่ ถึงมาตรว่าโจโฉมีทหารร้อยหมื่นก็จริง แต่ว่าเป็นทหารอ้วนเสี้ยวชาวบ้านนอกได้เชลยมาไว้ ถึงทหารเล่าเปียวเล่า โจโฉได้ก็เป็นคนสำส่อน จะปรารมภ์อะไร ยีหวนหัวเราะแล้วว่า เจรจาอย่างนี้เหมือนจะยกตัว ซึ่งท่านแตกหนีมาทั้งนี้มีเพราะทหารสำส่อนหรือจึงตกมาอยู่เมืองกังแฮ เที่ยวอ้อนวอนให้เขาช่วย ยังเจรจาว่ามิกลัวอีกเล่าใครจะเชื่อ

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 5)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่า เตียวเจียวคนนี้เป็นที่ปรึกษาผู้ใหญ่ของซุนกวนมีปัญญาหลักแหลมนัก แม้กูจะมิตอบให้จนแก่ถ้อยคำบัดนี้ ที่ไหนจะเจรจาด้วยซุนกวนสืบไปได้ แล้วจึงตอบว่า ซึ่งเราจะคิดทำการเอาแผ่นดินเมืองเกงจิ๋วนั้นง่ายนัก เหมือนหนึ่งกลับฝ่ามือคว่ำแลหงาย จะทำเมื่อใดก็จะสำเร็จเมื่อนั้น ซึ่งเห็ตุทั้งนี้ก็เพราะนายเราเป็นคนซื่อถือความสัตย์ มิได้ปรารถนาที่จะชิงเอาสมบัติของแซ่เดียวกัน ไม่กระทำตามคำเราจึงได้ความเดือดร้อน มาน้อยใจด้วยเล่าจ๋องลูกอมมือเชื่อถือถ้อยคำคนสอพลอ เอาเมืองซงหยงไปลอบยกให้โจโฉ โจโฉจึงได้กำเริบทำการใหญ่หลวงมาถึงเพียงนี้ แลเล่าปี่นายเรามาตั้งอยู่ ณ เมืองกังแฮนั้นก็หวังจะทำการใหญ่หลวงต่อไปอยู่ ซึ่งผู้มีสติปัญญาเป็นประมาณเหมือนท่านฉะนี้ ถึงจะบอกให้ที่ไหนจะรู้ ดังเอาแก้วไปทิ้งลงไว้ในตมก็ลับรัศมีเสียเปล่า

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 4)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


โลซกจึงว่า อันคนทั้งปวงเห็นพร้อมกันจะให้ท่านไปคำนับโจโฉเพราะเห็นแต่จะมีความสุขนั้น เหมือนจะให้มีความทุกข์ไปอีก ข้าพเจ้าผู้เดียวไม่เห็นด้วย ขอท่านอย่าได้ออกไปคำนับโจโฉเลย ซุนกวนจึงว่า ซึ่งมิเต็มใจให้เราออกไปก็ชอบอยู่ แต่ความคิดท่านเห็นประการใด โลซกจึงว่า ข้าพเจ้าเห็นว่าโจโฉหรือจะเลี้ยงท่านเป็นใหญ่ ถึงจะทำนุบำรุงก็แต่เป็นประมาณ แม้จะมีบ่าวตามหลังอย่างมากก็เพียงสี่คน ถึงจะมีม้าขี่ก็แต่ตัวเดียว จะเหมือนท่านเป็นโสดแก่ตัวอยู่ในเมืองกังตั๋งหรือ อันคนทั้งปวงว่านั้นประโยชน์จะรักษาตัวให้เป็นสุข หาเจ็บร้อนด้วยท่านไม่ ซึ่งท่านจะคิดอ่านทำการกับโจโฉนั้น อย่าได้เชื่อฟังถ้อยคำคนเหล่านี้สืบต่อไป จงเร่งตระเตรียมการป้องกันรักษาตัวเถิด

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 3)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขงเบ้งจึงบอกว่า อาวสิ้วเจ้าเมืองซังงาวเป็นคนชอบกันกับเล่าปี่นายเรา บัดนี้เล่าปี่ก็คิดว่าจะผ่อนผันไปอาศัยอยู่ด้วย โลซกจึงว่า อันเมืองซังงาวนั้นผู้คนข้าวปลาอาหารก็น้อย แต่ตัวอาวสิ้วเองก็ยังรักษามิใคร่ได้ เหตุใดจึงจะอาจรักษาผู้อื่นได้เล่า เรามิเห็นด้วย ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งท่านว่าทั้งนี้ก็ชอบอยู่ แต่ว่าบัดนี้จนใจอยู่แล้วด้วยหาที่จะอาศัยมิได้ จำเป็นจะไปพึ่งอยู่ก่อนพอได้ยั้งตัวก็จะได้คิดทำการต่อไป โลซกจึงว่า ท่านจะไปอาศัยอยู่เมืองกังตั๋งจะมิดีหรือ อันซุนกวนนายเราก็มีน้ำใจอารี ทั้งอาณาประชาราษฏรก็รักใคร่เป็นอันมาก แล้วข้าวปลาอาหารก็บริบูรณ์ ขอท่านให้คนไปหาซุนกวน พูดจาเกลี้ยกล่อมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ช่วยกันคิดอ่านกำจัดโจโฉเสีย เห็นจะสำเร็จดังความคิดของท่าน

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 2)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าปี่จึงว่า อันความคิดทั้งนี้เราก็เห็นด้วยอยู่ แต่ทว่าผู้ใดซึ่งจะมาหาเรานั้นยังไม่เห็นเลย พอเล่าปี่ว่าแก่ขงเบ้งยังมิทันขาดคำ ทหารวิ่งเข้ามาบอกว่า บัดนี้ซุนกวนใช้ให้โลซกเอาเครื่องเซ่นมาแต่เมืองกังตั๋งจะมาคำนับศพเล่าเปียว ขงเบ้งได้ยินดังนั้นก็ตบมือหัวเราะ จึงถามเล่ากี๋ว่า ขณะเมื่อซุนเกี๋ยนบิดาซุนกวนถึงแก่ความตายนั้น ท่านได้แต่งไปคำนับศพหรือ เล่ากี๋จึงว่า เมืองกังตั๋งกับเมืองเกงจิ๋วเป็นอริกัน อยู่มาบิดาข้าพเจ้าฆ่าบิดาเขาถึงแก่ความตายแล้ว จะกลับไปคำนับศพกระไรได้ ขงเบ้งจึงว่า ถ้าดังนั้นโลซกมาครั้งนี้เห็นจะมิมาคำนับศพโดยสุจริต จะมาสืบเอากิจการบ้านเมืองเป็นมั่นคง จึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ถ้าโลซกมาหาท่าน จะพูดจาไต่ถามถึงโจโฉประการใด ท่านจงบอกปฏิเสธเสียว่าหารู้ไม่ แม้จะซักไซ้ไต่ถามสืบไปก็จงบอกว่าให้ไปถามขงเบ้งดูเถิด เล่าปี่ เล่ากี๋จึงให้คนไปรับโลซกขึ้นมา แล้วจึงแต่งโต๊ะเลี้ยงตามประเพณี

"สามก๊ก" ตอนที่ 38 (ช่วงที่ 1)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายโจโฉครั้นพบกวนอูในกลางทางนั้นสำคัญว่ากลของขงเบ้ง มิอาจตามเล่าปี่ไป ถอยกลับมา จึงคิดว่าเล่าปี่หนีได้ฉะนี้ น่าที่จะรุกไปตีเอาเมืองกังเหลงเป็นมั่นคง ถ้าเล่าปี่ได้เมืองกังเหลงแล้วก็จะตั้งมั่นอยู่เห็นจะทำการยากก็รีบยกทหารคืนหลังมาจะไปตีเอาเมืองกังเหลง
ขณะนั้นเตียนยีซึ่งได้รักษาเมืองเกงจิ๋วแจ้งว่า เมืองซงหยงนั้นขึ้นแก่โจโฉแล้ว ครั้นรู้ว่าโจโฉยกมาถึงแดนเมืองเกงจิ๋วก็กลัว เห็นว่าจะสู้มิได้ก็พาอาณาประชาราษฎรทั้งปวงออกมาคำนับโจโฉ แล้วให้เชิญโจโฉเข้าไปในเมือง โจโฉจัดแจงอาณาประชาราษฎรทั้งปวงเป็นปรกติแล้ว จึงว่าแก่ที่ปรึกษาทั้งปวงว่า บัดนี้เล่าปี่ไปตั้งอยู่ ณ เมืองกังแฮแล้ว นานไปข้างหน้าเห็นว่าจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเข้ากับเมืองต๋องง่อ จำจะรีบกำจัดเสีย เหมือนหญ้าแพรกถ้ามิรีบชำระเสียก็จะงอกงามออกเป็นพืชติดผูกพันกันไป แต่จะคิดประการใดจึงจะกำจัดเล่าปี่ได้

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 6)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายกวนอูซึ่งไป ณ เมืองกังแฮ ได้ทหารมาหมื่นหนึ่ลงเรือคุมกลับมาถึงกลางทาง รู้ระคายไปว่าเล่าปี่แตกมาถึงสะพานเตียงปันเกี้ยว ก็ให้ทหารจอดเรือเข้า ณ ท่าฮันจิ๋น ยกทหารรีบขึ้นบกมาสกัดรับเล่าปี่ พอเล่าปี่แยกไปทางลัดก็มิได้พบกัน มาถึงเนินเขาแห่งหนึ่งพบกองทัพโจโฉยกติดตามเล่าปี่มาทางใหญ่ กวนอูก็ขับทหารโห่ร้องยกรีบสวนทางขึ้นมา โจโฉเห็นดังนั้นจึงว่า ซึ่งลิเตียนทัดทานเรานั้นก็เห็นจะต้องด้วยกลขงเบ้งจริงเหมือนคำลิเตียน แล้วก็สั่งให้ทหารถอบกลับลงมา กวนอูก็ไล่รบพุ่งติดตามไปทางประมาณร้อยเส้น เห็นทหารโจโฉถอยไปมิได้ต่อรบ ก็กลับหลัย้อนมาตามทางลัด พบเล่าปี่ก็มีความยินดี จึงพาไปลงเรือแล้วถามว่านางบิฮูหยินพี่สะใภ้ข้าพเจ้าไปอยู่ไหนเล่า เล่าปี่จึงบอกเนื้อความแก่กวนอูตามซึ่งได้รบพุ่งกับโจโฉนั้นว่า นางบิฮูหยินกระโจนน้ำตายเสียแล้ว จูล่งจึงเอาแต่บุตรนี้มาให้เรา กวนอูได้ฟังดังนั้นก็ทอดใจใหญ่ว่าวันเมื่อไปตามเสด็จพระเจ้าเหี้ยนเต้ ถ้าท่านมิห้ามข้าพเจ้า ที่ไหนจะได้ความเดือดร้อนถึงเพียงนี้

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 5)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


โจโฉขึ้นอยู่บนเนินเขาเกงสัน แลลงไปเห็นจูล่งเข้ารบพุ่งตะลุมบอนด้วยทหารทั้งปวง แลฝ่าฟันไปมิได้ย่อท้อ จึงถามว่าทหารเล่าปี่คนนี้ชื่อใดมีฝีมือเข้มแข็งนัก โจหองได้ยินโจโฉถาม ก็ขับม้ารีบลงไปจากเนินเข้าสกัดหน้าจูล่งไว้ แล้วก็ร้องถามว่าท่านนี้ชื่อใด จูล่งจึงร้องบอกว่าเราชื่อเตียวจูล่ง โจหองชักม้ากลับไปแจ้งแก่โจโฉ โจโฉจึงสรรเสริญว่าทหารคนนี้มีอำนาจประดุจเสือ แล้วจึงสั่งให้ไปร้องประกาศว่า อย่าให้ผู้ใดเอาเกาทัณฑ์ยิงจูล่งเลยจะตายเสีย จงช่วยกันล้อมจับเอาเป็นให้ได้ ฝ่ายจูล่งก็ขับม้าไล่ฟันทหารทั้งออกมาได้ ด้วยเหตุว่าโจโฉห้ามทหารทั้งปวงมิให้ยิงเกาทัณฑ์ แลบุญของอาเต๊าที่จะได้เป็นกษัตริย์นั้นด้วยจึงเผอิญให้จูล่งฆ่านายกองใหญ่เสียได้ถึงสองนาย ทหารเอกห้าสิบคน โลหิตติดเกราะแลข้างม้าดุจหนึ่งรดด้วยน้ำครั่ง

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 4)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


พอได้ยินเสียงทหารคนหนึ่งร้องทักออกมาว่า จูล่งจะรีบขับม้าไปแห่งใด จูล่งได้ยินดังนั้นก็ชักม้าหยุดไว้แล้วถามว่า ท่านนี้ผู้ใด ทหารนั้นจึงบอกว่า ข้าพเจ้าเป็นคนขับเกวียนของนางกำฮูหยิน ถูกเกาทัณฑ์ป่วยไปมิได้ จูล่งจึงถามว่านางไปอยู่แห่งใด ทหาจึงบอกว่า บัดนี้หนีไปกับชาวเมืองข้างทิศใต้ จูล่งได้ฟังดังนั้นก็ทิ้งทหารทั้งปวงเสีย ขับม้ารีบตามไปแต่ผู้เดียว พอพบชาวเมืองทั้งสองหนีซุ่มอยู่เหล่าหนึ่งจึงถามว่า นางกำฮูหยินอยู่ในพวกนี้ด้วยหรือ
นางกำฮูหยินได้ยินดังนั้น แลเห็นจูล่งก็ค่อยคลายใจ จึงร้องบอกไปว่าข้าพเจ้าอยู่นี่ ท่านจงช่วยชีวิตไว้ให้รอด แล้วก็ร้องไห้ จูล่งโจนลงจากหลังม้าขมีขมันเข้าไปหาแล้วจึงว่า งข้าพเจ้ามิได้ระวังระไวท่านแลให้ได้ความลำบากนั้นโทษข้าพเจ้าผิดนักหนาแล้ว บัดนี้นางบิฮูหยินกับอาเต๊าผู้เป็นบุตรนั้นไปอยู่แห่งใดเล่า นางกำฮูหยินจึงบอกว่า ขณะเมื่อลงจากเกวียนเข้าปนระวลกับชาวเมืองน้นมาด้วยกัน ครั้นทหารโจโฉไล่ตีเข้ามาภายหลัง ต่างคนต่างแตกกระจัดกระจายไปมิรู้ว่าจะไปอยู่แห่งใดเลย

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 3)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ครั้นเวลาประมาณสามยาม เล่าปี่ได้ยินเสียงคนโห่ร้องอื้ออึงคะนึงมาทางทิศเหนือดังหนึ่งแผ่นดินจะถล่มก็ตกใจ จึงขึ้นม้าคุมทหารสองพันยกออกไปพบทัพโจโฉยกตามมา เล่าปี่ก็ขับทหารเข้าสู้รบกันเป็นสามารถ ทหารโจโฉก็ล้อมเล่าปี่เข้าไว้ เตียวหุยเห็นว่าเล่าปี่เข้าอยู่ในกลางทหารโจโฉดังนั้น ก็ตีฝ่ายทหารเข้าไปช่วยเล่าปี่ เล่าปี่ได้ทีดังนั้นก็รบหักตามเตียวหุยออกมาด้านตะวันออก พอบุนเพ่งคุมทหารมาก้าวสกัดหน้าไว้ เล่าปี่จึงขับม้าขึ้นหน้าร้องด่าบุนเพ่งว่าอ้ายทรยศต่อเจ้า ยังมีหน้าเข้ากับโจโฉอีกเล่า บุนเพ่งได้ยินดังนั้นก็มีความอาย ไม่อาจรอหน้าเล่าปี่อยู่ได้ ก็คุมทหารบากหนีไป

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 2)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็ตกใจจึงอ้อนวอนขอตัวว่า ซึ่งท่านจะตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นเจ้าเมืองเฉงจิ๋วนั้น คุณมหาอุปราชหาที่สุดมิได้ ซึ่งข้าพเจ้าอุตส่าห์ออกมาคำนับท่านทั้งนี้ ใช่จะมีความปรารถนาเป็นเจ้าบ้านผ่านเมืองนั้นหามิได้ ข้าพเจ้าจะขอเป็นแต่ไพร่อยู่ในเมืองเกงจิ๋วนี้ จะได้รักษาศพของบิดาแลญาติทั้งปวงตามประเพณี ขอท่านได้กรุณาแก่ข้าพเจ้าเถิด โจโฉจึงว่า ซึ่งเราจะให้ท่านไปอยู่เมืองเฉงจิ๋วบัดนี้ด้วยความเอ็นดูท่าน เห็นว่าเมืองเฉงจิ๋วนั้นกับเมืองหลวงใกล้กันท่านจะได้เข้าเฝ้าแหนพระเจ้าเหี้ยนเต้ ประการหนึ่งท่านจะอยู่ในเมืองเกงจิ๋วนี้ไกลพระเจ้าเหี้ยนเต้ แลเป็นที่เบียดเบียนแก่คนทั้งปวงจะอยู่มิสบาย จะได้ความเดือดร้อนเมื่อปลายมือ เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็กลัวโจโฉ ขัดมิได้ซังตายรับคำนับแล้วลาพามารดาไปเมืองเฉงจิ๋ว ครั้นถึงฝั่งน้ำท่าข้ามขุนนางทั้งปวงซึ่งไปส่งนั้นก็อำลากลับาสิ้น แต่อองอุ้ยนั้นติดตามเล่าจ๋องไป

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 1)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

ฝ่ายโจโฉครั้นมาถึงเมืองอ้วนเซียแล้ว ก็รีบพาทหารทั้งปวงข้ามมาเมืองซงหยง จึงให้คนเข้าไปหาเล่าจ๋องออกมา ชัวมอกับเตียวอุ๋นจึงว่าแก่เล่าจ๋องว่ามหาอุปราชมาถึงเมืองแล้ว ให้เข้ามาหาท่านออกไปบัดนี้ ก็ควรจะออกไปคำนับตามประเพณี อองอุ้ยผู้เป็นที่ปรึกษาค่อยกระซิบว่าแก่เล่าจ๋องว่า แต่ก่อนถึงท่านจะได้อ่อนน้อมต่อโจโฉแล้วก็จริง แลบัดนี้เล่าปี่ก็หนีโจโฉไปมิได้ต่อสู้ เห็นว่าโจโฉครั้งนี้จะมีใจทะนงนัก มิได้จัดแจงที่จะรักษาตัวเป็นกวดขันเหมือนแต่ก่อนเห็นจะประมาทอยู่ ขอท่านได้จัดแจงทหารให้พรักพร้อม แล้วลอบยกไปจับเอาตัวโจโฉเห็นจะได้โดยง่าย ถ้าได้ตัวโจโฉแล้วปัญญาแลความคิดของท่านก็จะปรากฏแก่คนทั้งปวง แลท่านก็จะเป็นที่ยำเกรงด้วย ซึ่งจะคิดทำการใหญ่สืบไปภายหน้าก็เห็นจะสำเร็จ เล่าจ๋องจึงเอาถ้อยคำของอองอุ้ยบอกแก่ชัวมอ

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 10)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

เล่าปี่เห็นดังนั้นจึงว่า เรามาบัดนี้ก็ตั้งใจจะอนุเคราะห์อาณาประชาราษฎรให้มีความสุขพร้อมมูลกัน แต่เรายังมิทันจะเข้าไปถึงในเมืองสิมาเกิดรบพุ่งกันขึ้นกลับทำให้อาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อนถึงเพียงนี้แล้ว ถ้าเราเข้าไปในเมืองจะมิได้ความเดือดร้อนยิ่งกว่านี้หรือ ซึ่งเราตั้งใจจะให้เป็นประโยชน์นั้นก็สูญเสียเปล่า แม้จะเข้าไปบัดนี้ก็เหมือนมาทำให้อาณาประชาราษฎรได้ความเดือดร้อนอีก เราไม่เข้าไปแล้ว ขงเบ้งจึงว่า ถ้าดังนั้นเมืองกังเหลงก็เป็นแว่นแคว้นเมืองเกงจิ๋ว ขอให้ท่านยกไปอยู่เถิด เห็นพอจะป้องกันรักษาตัวได้ เล่าปี่เห็นชอบด้วยจึงพาทหารแลอาณาประชาราษฎรทั้งปวงยกไปเมืองกังเหลง

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 9)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่าปี่จึงถามขงเบ้งว่า อันโจโฉยกมาครั้งนี้เราจะคิดกลอุบายแก้ไขประการใด ขงเบ้งจึงว่า อันเราจะตั้งรับกองทัพโจโฉในเมืองอ้วนเซียนี้มิได้ จำจะทิ้งเมืองอ้วนเซีย แล้วไปตั้งเอาเมืองซงหยงเป็นที่มั่นจึงจะได้ เล่าปี่จึงว่า ซึ่งจะทิ้งเมืองอ้วนเซียแล้วจะไปอยู่เมืองซงหยงนั้นก็ชอบอยู่ แต่ทว่าเราก็มีความวิตกด้วยอาณาประชาราษฎรทั้งปวง เสียแรงเขาติดตามมาด้วย แลจะทิ้งเขาเสีย หนีไปเอาแต่ตัวรอดนั้นก็เอ็นดูแก่เขานัก ขงเบ้งจึงว่า ถ้าดังนั้นจงให้คนไปประกาศว่า บัดนี้โจโฉยกมาจะทำอันตรายแก่เรา เราเห็นเหลือกำลังนัก จะตั้งรับอยู่ที่นี่มิได้ เราจะผ่อนผันไปอยู่เมืองซงหยง ถ้าผู้ใดจะไปกับเราก็ไป ถ้าสมัครอยู่มิไปก็ตามอัธยาศัยเถิด เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็ให้กวนอูไปจัดแจงเรือสำหรับจะข้ามไปเมืองซงหยงแล้วก็ให้ซุนเขียนกับกันหยงไปประกาศแก่คนทั้งปวงตามคำขงเบ้ง

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 8)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าหัวที่ปรึกษาจึงว่าแก่โจโฉว่า ซึ่งมหาอุปราชยกมาจะปราบปรามหัวเมืองฝ่ายใต้ครั้งนี้ ควรจะผ่อนเอาใจอาณาประชาราษฎรทั้งปวงให้มีความยินดีเป็นที่รักใคร่ก่อน การที่เล่าปี่ทิ้งเมืองเสียพาอาณาประชาราษฎรไปอยู่เมืองอ้วนเซียด้วยนั้น ถ้าท่านจะด่วนยกไปโดยกำลังโกรธบัดนี้ก็จะได้อยู่ แต่อาณาประชาราษฎรทั้งสองเมืองจะได้ความเดือดร้อนฉิบหายล้มตายเสียเพราะเล่าปี่เป็นอันมาก ขอให้ท่านยับยั้งกองทัพไว้ก่อน จงใช้ให้คนไปว่ากล่าวเอาเนื้อเอาใจเล่าปี่ให้มาสมัครสมานด้วยจะดีกว่า ถึงมาตรว่าเล่าปี่มิมาก็ดี อาณาประชาราษฎรทั้งปวงก็จะเลื่อมใสเห็นว่า ท่านมีใจเอ็นดูแก่ชาวเมืองเป็นอันมาก ถ้าเล่าปี่มานบนอบแก่เราแล้ว หัวเมืองเกงจิ๋วทั้งนั้นก็จะได้โดยง่าย ไม่พักต้องรบพุ่งให้ลำบากแก่ทหารทั้งปวง

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 7)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเคาทูก็รีบยกทหารขึ้นมาถึงชายทุ่ง พอเวลาใกล้จะพลค่ำก็เห็นกองทัพยกหนีเข้าป่าสิ้น เคาทูจัดแจงทหารจะให้เข้าค้น พอได้ยินเสียงคนอื้ออึงอยู่บนเขาจึงแหงนขึ้นไปดู เห็นเล่าปี่แลขงเบ้งกั้นสัปทนนั่งเสพย์สุราอยู่ด้วยกัน เคาทูก็โกรธขับทหารจะขึ้นไปจับเอาตัวขงเบ้ง ขงเบ้งก็ให้ทหารทั้งปวงกลิ้งก้อนศิลาลงมา ถูกทหารเคาทูตายป่วยเป็นอันาก ขึ้นไปมิได้ก็ถอยลงมา แล้วได้ยินเสียงคนอื้ออึงอยู่ข้างหลังเขา เคาทูจะยกทหารอ้อมไปรบ พอโจหยินยกหนุนมาทันจึงห้ามว่า เวลาวันนี้ค่ำมืดแล้วอย่าเพ่อเข้าไปรบเลย เราจะยกเข้าไปเอาเมืองซินเอี๋ยยับยั้งทหารสงบไว้ให้สบายก่อน ห้ามดังนั้นแล้วก็พาเคาทูกยกรีบเข้าไปถึงเชิงกำแพงเมืองซินเอี๋ย เห็นประตูเปิดอยู่ทั้งสี่ด้าน มิได้เห็นผู้คนสักคนหนึ่ง โจหยินมีความยินดีก็ยกเข้าไปในเมือง โจหองจึงว่าแก่โจหยินว่า ครั้งนี้เห็นว่าขงเบ้งกับเล่าปี่คับปคบตัวเข้าแล้วจึงทิ้งเมืองเสีย พาครอบครัวอบยพหนีไปสิ้น เราจะยับยั้งทหารอยู่ให้สบายสักคืนหนึ่ง เวลารุ่งเช้าจึงจะยกตามไปล้อมจับเอาขงเบ้งเล่าปี่ให้ขงได้ โจหยินกับโจหองก็ชวนกันเข้าอยู่ในตึกเล่าปี่ ทหารทั้งปวงก็เรี่ยรายกันเข้าอาศัยอยู่ทุกเรือน ต่างคนต่างเหนื่อยมาก็หลับไปสิ้น

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 6)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขงเบ้งจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า อันโจโฉยกกองทัพมาครั้งนี้เป็นธุระข้าพเจ้า ท่านอย่าปรารมภ์เลย แลครั้งเมื่อแฮหัวตุ้นยกมานั้น แต่คบเพลิงอันเดียวเรายังเผาทหารทั้งปวงเสียเอาชัยชนะได้ อันโจโฉมาครั้งนี้ดีร้ายจะต้องเข้าในกลข้าพเจ้าสักสิ่งหนึ่งเป็นมั่นคง แต่ทว่าเราจะตั้งอยู่ในเมืองซินเอี๋ยนี้ไม่ได้ ขอท่านให้ไปหระกาศป่าวร้องแก่อาณาประชาราษฎรแลหญิงชายคนเฒ่าคนแก่ทั้งปวงว่า บัดนี้กองทัพโจโฉยกมาจะทำอันตราย เราจะอยู่ในที่นี้มิได้ จะต้องไปอยู่เมืองอ้วนเซีย ถ้าผู้ใดจะไปด้วยเราก็ให้ตระเตรียมตัวไว้จงพร้อม แม้เรายกไปเมื่อใดก็จะได้ไปด้วยกัน ถ้าผู้ใดมิไปจะอยู่ในเมืองซินเอี๋ยนี้ แม้เกิดภัยอันตรายไปภายหน้าก็อย่าได้นินทาว่าเราทิ้งเสียหนีเอาแต่ตัวรอด เล่าปี่เห็นชอบด้วยจึงใช้ให้คนไปป่าวร้องแก่อาณาประชาราษฎรชาวเมืองทั้งปวง แลเกณฑ์ให้บิต๊กเป็นคนสำหรับส่งครอบครัวทหารทั้งปวงยกไปเมืองอ้วนเซีย

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 5)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าปี่แจ้งว่าเล่าเปียวถึแก่ความตายแล้วดังนั้น ก็ร้องไห้รักจนสลบไป ครั้นเล่าปี่ฟื้นนสมประดีขึ้น เตียวหุยจึงว่า ท่านจะมาโทมนัสอยู่ดังนี้หาควรไม่ ขอให้เอาซงต๋งไปตัดศีรษะเสียจึงจะชอบ แล้วจึงยกทหารไปตีเมืองซงหยง ฆ่าเล่าจ๋องแลชัวมอเสียได้แล้วก็จะได้ทำการสงครามไปหน้าเดียว เล่าปี่จึงห้ามว่า ตัวท่านเป็นเด็กจะรู้ไปกว่าผู้ใหญ่นั้นไม่ชอบ จงสงบปากอยู่ก่อน อันการงานทั้งปวงนั้นเราก็ตรึกตรองแล้ว เล่าปี่จึงถามซงต๋งว่า ตัวท่านก็มีสติปัญญาอยู่ เมื่อคนทั้งปวงคิดมิชอบฉะนี้ เหตุใดมิเอาเนื้อความมาแจ้งแก่เราให้รู้ ครั้นจะฆ่าท่านเสียบัดนี้กระบี่เราก็จะติดโลหิตเสียเปล่า ท่านจงเร่งกลับไปเมืองซงหยงเถิด แล้วจงบอกว่าเราจับได้ปล่อยเสีย ซงต๋งมีความยินดีคำนับเล่าปี่แล้วก็ลาไป

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 4)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าจ๋องจึถามว่า กลอุบายของท่านจะทำประการใด ฮูสวนจึงว่าขอให้ท่านยกเมืองเกงจิ๋วกับทั้งเก้าหัวเมืองนี้ให้แก่โจโฉ เห็นโจโฉจะมีความยินดี ก็จะชุบเลี้ยงให้ได้ความสุข เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงตวาดฮูสวนว่า บิดาเราถึงแก่ความตาย บัดนี้เราได้ครองเมืองยังมิทันใด แลท่านมาคิดอ่านจะให้เราเอาเมืองไปให้แก่โจโฉนั้นเพราะเหตุสิ่งใด เก๊งอวดจึงว่าแก่เล่าจ๋องว่า อันฮูสวนว่านี้ชอบนัก เพราะเกิดมาเป็นคนจำจะรู้จักที่หนักที่เบาจึงควร แลทุกวันนี้โจโฉได้เป็นมหาอุปราชมีน้ำใจกำเริบ จะทำการสิ่งใดก็ถือเอารับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้เป็นประมาณ เที่ยวปราบปรามได้บ้านเมืองเป็นอันมาก บัดนี้ท่านก็พึ่งตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ แต่การภายในพี่น้องของท่านก็ยังไม่ปรกติกัน ซึ่งจะคิดอ่านทำศึกภายนอกนั้นเห็นไม่ควร แม้โจโฉยกมาถึงแล้ว อาณาประชาราษฎรทั้งปวงก็จะกลัว แลชวนกันหนีไปเข้าด้วยโจโฉสิ้น เห็นท่านจะสู้ไม่ได้

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 3)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่ากี๋ผู้บุตรเล่าเปียวซึ่งไปกินเมืองกังแฮนั้น รู้ข่าวไปว่าบิดาป่วยหนักก็รีบมาเยือน ครั้นมาถึงประตู ชัวมอ เตียวอุ๋นจึงห้ามเล่ากี๋ว่า ตัวท่านนี้บิดาให้ไปอยู่รักษาเมืองกังแฮ มิได้ให้หามา แลท่านทิ้งเมืองเสียฉะนี้ แม้ซุนกวนรู้จะยกกองทัพจู่มาตีเอาเมืองกังแฮนั้นจะมิเสียหรือ อนึ่งบิดาท่านป่วยหนักอยู่ซึ่งท่านจะเข้าไปบัดนี้ ก็เห็นว่าบิดาท่านจะโกรธว่าทิ้งเมืองเสีย โรคนั้นก็จะกำเริบขึ้น เหลือกำลังก็จะถึงแก่ความตาย เหมือนท่านเอายาพิษมาเจือเข้าอีก เล่ากี๋ได้ฟังดังนั้นก็ร้องไห้รักอยู่แต่นอกประตู จะเข้าไปเยี่ยมบิดามิได้แล้วก็ขึ้นม้ากลับไปเมืองกังแฮ
ฝ่ายเล่าเปียวป่วยหนักลง ตั้งใจคอยหาเล่ากี๋ผู้บุตรมิได้เห็นมา ครั้นถึงเดือนสิบขึ้นสามค่ำ โรคนั้นกำเริบหนักไป ร้องขึ้นได้คำเดียวก็ถึงแก่ความตาย นางชัวฮูหยินเห็นว่าเล่าเปียวถึงแก่ความตายแล้ว จึงให้หาชัวมอ เตียวอุ๋นเข้ามาคิดอ่านกัน เขียนเป็นอักษรของเล่าเปียวให้ไว้ฉบับหนึ่งใจความว่า แม้เราหาบุญไม่แล้วก็ให้เล่าจ๋องรักษาแผ่นดินเมืองเกงจิ๋วสืบไปเถิด นางชัวฮูหยินจึงให้หาขุนนางเข้ามาพร้อมกัน แล้วเอาหนังสือซึ่งปลอมเขียนไว้นั้นออกมาให้ขุนนางทั้งปวงดู จึงตั้งเล่าจ๋องขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทนบิดา แล้วจัดแจงแต่งการศพเล่าเปียวตามประเพณี

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 2)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขณะนั้นคองสีซึ่งเป็นอริกันกับขงหยงได้ยินว่าดังนั้น ก็เอาเนื้อความเข้ามาบอกแก่โจโฉว่า ขงหยงนี้เป็นคนมิดี ลอบนินทาท่านภายหลัง แลครั้งเมื่อยีเอ๋งหยาบช้าต่อท่านนั้น ก็เพราะขงหยงยุยงให้ว่ากล่าว โจโฉได้ฟังดังนั้นก็เชื่อ มีความโกรธนัก จึงให้ทหารจับตัวขงหยงไปฆ่าเสีย คนใช้ขงหยงจึงวิ่งไปบอกแก่บุตรขงหยงทั้งสองคนว่า บัดนี้มหาอุปราชจังเอาบิดาท่านไปฆ่าเสียแล้ว เหตุใดท่านยังเล่นหมากรุกอยู่ หากลัวตายไม่หรือจึงไม่หนีเสีย บุตรขงหยงทั้งสองจึงตอบว่า ซึ่งท่านเอ็นดูแก่เรานี้คุณหาที่สุดมิได้ แต่ธรรมดานกทั้งปวงซึ่งตกฟองในรัง แม้ว่ารังทำลายแล้วฟองนั้นก็ตกแตก มิอาจสามารถจะตั้งอยู่ได้ แลบิดาเราถึงแก่ความตายบัดนี้ ตัวเราผู้เป็นบุตรหรือจะหนีพ้น ว่าดังนั้นยังมิทันจะขาดคำ พอทหารโจโฉเข้ามาถึงก็ล้อมเรือนเข้าไปจับเอาบุตรภรรยาไป โจโฉจึงสั่งให้ฆ่าเสีย แล้วโจโฉให้เอาศพขงหยงไปประจานไว้ที่หนทางสามแพร่ง มิให้ผู้ใดเอาเยี่ยงอย่างสืบไป

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 1)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขงเบ้งจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ท่านมีชัยแก่แฮหัวตุ้นครั้งนี้ ท่านอย่าเพ่อยินดีก่อน เห็นว่าโจโฉจะยกกองทัพมาตอบแทนแก้แค้นท่านเป็นมั่นคง เล่าปี่จึงถามว่า ถ้าฉะนั้นท่านจะคิดประการใดเล่า ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งเข้าพเจ้าจะคิดอ่านต่อสู้โจโฉนั้นพอจะได้อยู่ แต่มาเห็นว่าเมืองซินเอี๋ยนี้คับแคบนัก จะคิดอ่านผ่อนปรนยาก บัดนี้เล่าเปียวก็ป่วยหนักอยู่แต่ก่อนก็ได้อนุญาตว่าจะให้เมืองเกงจิ๋วแก่ท่าน ครั้งนี้ก็ได้ท่วงทีอยู่แล้ว แม้ท่านยกไปเมืองเกงจิ๋ว ถึงมาตรว่าโจโฉจะยกกองทัพมา ก็จะคิดอ่านผ่อนผันทำการรบพุ่งได้ถนัด เพราะเมืองเกงจิ๋วกว้างขวางเป็นเมืองใหญ่
เล่าปี่จึงว่า ท่านว่าดังนี้ก็ชอบอยู่ แต่ทว่าเล่าเปียวมีคุณแก่เรามาแต่ก่อนเป็นอันมาก ครั้นจะยกไปบัดนี้ก็เหมือนไปชิงเมืองท่านอยู่ ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งข้าพเจ้าว่านี้ใช่จะให้ท่านทำร้ายแก่เล่าเปียวนั้นหาไม่ อันเมืองเกงจิ๋วนั้นก็จะได้แก่ท่านเป็นมั่นคงอยู่ แม้มิยกไปตามคำข้าพเจ้า นานไปจะมีอันตราย เมื่อมีเหตุขึ้นแล้วท่านจึงจะรู้จักสำนึก เล่าปี่จึงว่า ถึงมาตรว่าจะมีอันตรายประการใดก็ดี ตัวเราก็จะสู้ตาย ซึ่งจะทรยศต่อผู้มีคุณนั้นเราทำมิได้ ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งท่านมิเต็มใจที่จะทำตามถ้อยคำข้าพเจ้าก็ตามอัธยาศัยเถิด จึงจะคิดอ่านผ่อนผันต่อไป

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 6)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่าปี่เห็นแฮหัวตุ้นยกทหารติดตามจล่งมาดังนั้น จึงให้จุดประทัดสัญญาณขึ้น แล้วก็ยกหนุนจูล่งขึ้นไป ขณะนั้นแฮหัวตุ้นเห็นกองทัพเล่าปี่ยกหนุนออกมาดังนั้นก็หัวเราะ แล้วก็บอกแก่ฮันโฮว่า ขงเบ้งแต่งกองทัพซู่มไว้ฉะนี้ ท่านเห็นแล้วหรือ น่ากลัวนักหนา เวลาวันนี้เราจะรีบยกไปเหยียบเมืองซินเอี๋ยเสียให้ได้ ถ้ามิได้เราไม่ขอกลับไปให้มหาอุปราชเห็นหน้าเลย แล้วแฮหัวตุ้นก็ขับทหารรีบรุกตามขึ้นไป เล่าปี่กับจูล่งก็มิได้ต่อสู้ทำถอยหนีมา พอถึงเวลาประมาณยามเศษเกิดพายุมืดฟ้ามัวฝนขึ้น

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 5)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


กวนอูจึงว่าแก่ขงเบ้งว่า ท่านจัดแจงเราทั้งปวงให้ยกไปทำการทั้งนี้ก็เห็นชอบอยู่ แลตัว่านนั้นจำเป็นประการใดเล่า ขงเบ้งจึงบอกแก่กวนอูว่าท่านทั้งปวงยกไปแล้วเราก็จะอยู่รักษาเมือง เตียวหุยจึงตบมือหัวเราะแล้วว่า ซึ่งท่านว่ากล่าวทั้งนี้ก็เห็นว่าท่านมีสติปัญญาจริง คิดเอาความสบายแต่ตัว ท่านจะอยู่รักษาเมืองจงแต่งโต๊ะกินเล่นให้สบายใจเถิด
ขงเบ้งจึงว่า บัดนี้เล่าปี่ก็ให้กระบี่อาญาสิทธิ์อยู่กับมือเรา แลท่านมาบิดพลิ้วขัดขวางอยู่ฉะนี้เห็นไม่ชอบ แม้เราไม่ทำตามอาญาสิทธิ์ นานไปเบื้องหน้าที่ไหนจะบังคับทหารสืบไปได้ ก็จะเสียการไป

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 4)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


แฮหัวตุ้นได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่าแก่โจโฉว่า ชีซีแกล้งยกย่องขงเบ้งหวังจะให้ท่านคิดย่อท้อ อันข้าพเจ้ายกไปครั้งนี้จะจับตัวเล่าปี่ ขงเบ้งมาให้จงได้ถ้ามิได้สมดังปากว่า ท่านจงตัดศีรษะข้าพเจ้าแทนเถิด โจโฉจึงว่า ท่านจงยกไปตีเมืองซินเอี๋ย ถ้าได้ทีประการใดจงบอกข้อราชการมาถึงเราเนืองๆ แฮหัวตุ้นรับคำโจโฉแล้ว ก็ลาออกมาจัดแจงทหารทั้งปวงตามกระบวนทัพแล้วก็ยกออกมาจากเมืองฮูโต๋
ฝ่ายเล่าปี่ตั้งแต่ได้ขงเบ้งมาไว้แล้วก็ปฏิบัติดังอาจารย์มิได้ขาด กวนอูเตียวหุยก็มีความน้อยใจจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ขงเบ้งนั้นอายุยี่สิบเจ็บปีอ่อนกว่าท่านอีก แล้วก็ยังมิได้ปรากฎปัญญาแลความคิดก่อน เหตุใดท่านจึงมาคำนับขงเบ้งดังอาจารย์ฉะนี้ เล่าปี่จึงตอบว่า ตัวเรานี้อุปมาเหมือบปลาเกลือกอยู่บนดอน ซึ่งได้ขงเบ้งมาไว้นี้เหมือนเราเกลือกลงมาถึงน้ำได้ เจ้าทั้งสองไม่รู้ก็อย่าว่าเลย แม้รู้ถึงขงเบ้งก็จะมีความน้อยใจ พอมีคนเอาขนจามรีมาให้เล่าปี่ถักหมวกเล่น ขงเบ้งเดินมาเห็นเล่าปี่นั่งถักขนจามรีก็โกรธจึงว่า การซึ่งจะป้องกันรักษาตัวเหตุใดจึงไม่คิด ท่านมานั่งถักขนจามรีเล่นอยู่ฉะนี้ไม่ควร

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 3)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ในขณะนั้นคนสนิทจึงรีบออกไปบอกเนื้อความแก่ซินเสง ตงยี่ตามรับสั่งแลตงยี่ผู้น้องแจ้งดังนั้นจึงปรึกษาแก่ซินเสงผู้พี่ว่า บัดนี้ภัยมาถึงตัวเข้าแล้ว เราจะหนีเอาตัวรอดก่อน ซินเสงจึงตอบว่า ตัวเราเป็นบุตร พระราชบิดาจะให้ลงโทษถึงตาย ครั้นจะหนีไปให้พ้นภัยนั้น ก็เหมือนหนึ่งหากตัญญูต่อบิดามิได้ ประการหนึ่งเล่า ธรรมดาผู้เป็นเสนาบดีซึ่งเป็นข้าราชการนั้น ทำความผิดสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ดีแม้พระมหากษัตริย์จะลงโทษ แลจะหนีซึ่งราชทัณฑ์นั้นไม่ควร เหมือนคนมิได้มีสัตย์ซื่อต่อพระมหากษัตริย์ อันตัวพี่นี้จะขอเข้าไปรับราชอาญากว่าจะสิ้นชีวิตตงยี่ได้ฟังซินเสงผู้พี่ว่าดังนั้นก็ว่า ตัวข้าพเจ้าไม่ยอมตายเลย แล้วก็รีบหนีออกไปจากเมือง ฝ่ายซินเสงก็เข้ามา ครั้นขุนนางพบก็จับเอาตัวไปฆ่าเสียตามรับสั่ง

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 2)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าปี่เห็นขงเบ้งยิ้มอยู่ดังนั้นจึงว่าแก่ขงเบ้งว่า จงช่วยคิดอ่านให้เล่ากี๋ด้วย ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งจะให้คิดอ่านการในเรือนด้วยนั้นไม่ได้ เล่ากี๋ก็ลาออกมา เล่าปี่จึงตามออกมาส่งแล้ค่อยกระซิบสั่งเล่ากี๋ว่า เวลาพรุ่งนี้เราจะแกล้งให้ขงเบ้งไปหา เจ้าจงอ้อนวอนไต่ถามให้ขงเบ้งช่วยคิดอ่านบอกความออกจงได้ เล่ากี๋รับคำแล้วก็ลาไป
ครั้นเวลารุ่งเช้าเล่าปี่แกล้งทำป่วย แล้วหาขงเบ้งเข้ามาว่า เวลาวานนี้ เล่ากี่มาคำนับเรา วันี้เครั้นเราจะไปตามประเพณีบ้างเราก็ป่วยอยู่ ท่านจงไปแทนตัวเราหน่อยหนึ่งเถิด ขงเบ้งก็รับคำแล้วลาไปหาเล่ากี๋ คำนับกันตามธรมเนียมแล้ว เล่ากี๋จึงเล่าเนื้อความให้ขงเบ้งฟังว่า ทุกวันนี้มารดาเลี้ยงข้าพเจ้า คิดจะทำร้ายข้าพเจ้าอยู่มิได้ขาด ท่านจงเอ็นดูด้วยช่วยคิดอ่านอย่าให้มีภัยมาถึงข้าพเจ้าเลย

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 1)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายทหารซึ่งเล่าปี่ใช้ให้ลอยไปฟังราชการเมืองกังตั๋ง ได้เนื้อความมาบอกเล่าปี่ว่า บัดนี้ซุนกวนยกกองทัพไปตีเมืองกังแฮ ฆ่าหองจอเจ้าเมืองเสีย แล้วยกกลับมาเมืองตระเตรียมทหาร ให้จิวยี่ยกกองทัพเรือไปตั้งอยู่ปากน้ำเองฮอ แลตัวซุนกวนนั้นคุมทหารออกตั้งป้องกันรักษาเมืองอยู่ตำบลชีสอง เล่าปี่แจ้งดังนั้นจึงให้เชิญขงเบ้งมา แล้วบอกเนื้อความทั้งปวงให้แจ้งทุกประการ ขงเบ้งยังไม่ทันว่าประการใด พอคนใช้มาบอกเล่าปี่ว่า เล่าเปียวให้เชิญไปเมืองเกงจิ๋วจะปรึกษาข้อราชการด้วย ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ซึ่งเล่าเปียวให้มาหาท่านไปปรึกษาราชการ เพราะเหตุว่าซุนกวนฆ่าหองจอเจ้าเมืองกังแฮเสีย ซึ่งท่านจะไปนั้นข้าพเจ้าจะขอไปด้วยจะได้ช่วยคิดการทั้งปวง เล่าปี่จึงถามว่า เมื่อเราไปถึงเล่าเปียวแล้วท่านจะให้ว่าประการใด

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 5)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


กำเหลงเห็นดังนั้นก็รีบขับม้าตามไป พอได้ยินเสียงโห่ร้องหนุนมาข้างหลังเป็นอันมาก ครั้นเหลียวมาก็เห็นเทียเภาคุมทหารตามมา กำเหลงเป็นคนโลภจึงคิดแต่ในใจว่า แม้จะละไว้ช้าเทียเภากับทหารทั้งปวงก็จะตามจับหองจอได้ความชอบก็จะอยู่กับเขา จำเราจะรีบทำการเสียก่อน แล้วกำเหลงก็ขับม้าตามขึ้นไปใกล้จะทัน จึงเอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกหองจอตกม้าตาย แล้วตัดเอาศีรษะกับมาให้ซุนกวน ซุนกวนก็มีความยินดี จึงให้เอาศีรษะหองจอใส่ถังผนึกไว้แล้วว่า ถ้าเรากลับไปถึงเมืองจะได้เอาศีรษะหองจอนี้เซ่นศพบิดาเราให้หายความแค้นจึงตั้งกำเหลงให้เป็นนายทหาร แล้วปรึกษากับเตียวเจียวว่า เราจะคิดทำการต่อไปจำจะต้องแบ่งทหารให้อยู่รักษาเมืองกังแฮบ้างหรือประการใด

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 4)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ครั้นกำเหลงมาอยู่ ณ เมืองเอียนก๋วน เห็นได้ทีแล้วจึงมาว่ากล่าวจะขอมาอยู่ทำราชการด้วยท่าน บัดนี้กำเหลงก็มาด้วย แต่เกรงอยู่ว่าท่านจะมีใจพยาบาทเมื่อครั้งท่านยกไปจะจับหองจอ แลกำเหลงช่วยแก้ไขเอาเกาทัณฑ์ยิงเล่งโฉถึงแก่ความตาย กำเหลงจึงพาหองจอหนีรอดไป ข้าพเจ้าจึงตอบว่า อันน้ำใจท่านมิได้พยาบาท แลประการหนึ่งในท่ามกลางสงคราม ต่างคนต่างอาสานายทำศึกจะเอาชัยชนะ แลเนื้อความทั้งนี้ข้าพเจ้าได้รับคำกำเหลงมาแล้ว ท่านจงมีใจเอ็นดูข้าพเจ้าอย่าให้เสียวาจา ซุนกวนได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีจึงว่า การทั้งปวงซึ่งท่านได้รับคำกำเหลงมานั้นอย่าได้วิตกเลย แม้เราได้กำเหลงมาไว้ด้วยแล้ว อันหองจอนั้นอุปมาเหมือนอยู่ในเงื้อมมือเรา แล้วก็ให้ลิบองออกไปพากำเหลงเข้ามา กำเหลงคำนับซุนกวน ซุนกวนจึงว่าแก่กำเหลงว่า ซึ่งท่านสมัครมาอยู่ด้วยเรานี้ก็สมความปรารถนาที่เราคิดไว้ การสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งได้ผิดพลั้งกันมาแต่ก่อนนั้นเรามิได้พยาบาทท่าน ท่านจงตั้งใจทำราชการโดยสุจริตเถิด เราจะเลี้ยงให้ถึงขนาด ท่านจงเร่งคิดอ่านกำจัดหองจอเสียให้ได้ กำเหลงจึงตอบว่าครั้งนี้โจโฉก็ตั้งตัวเป็นใหญ่หลวง ฝ่ายเล่าเปียวนั้นเป็นคนโลเล แล้วความคิดก็น้อย บัดนี้ตัวก็แก่ชราแล้ว ท่านจงเร่งยกไปรบเอาเมืองเกงจิ๋วเสียให้ได้ก่อน แม้ละไว้ช้าเห็นโจโฉจะยกกองทัพมาตีเอาเมืองเกงจิ๋วได้ การทั้งปวงซึ่งท่านจะคิดทำนั้นก็จะลำบากแก่ทหาร ถ้าท่านเห็นด้วย เมื่อจะยกไปตีเมืองเกงจิ๋วนั้น จงตีเมืองกังแฮซึ่งเป็นต้นทางเสียก่อน ด้วยหองจอเจ้าเมืองกังแฮนั้นสติปัญญาน้อยทั้งประกอบไปด้วยโลภนักทำร้ายแก่ไพร่บ้านพลเมืองให้ได้ความเดือดร้อน ราษฎรทั้งปวงชังหองจออยู่แล้ว น้ำใจนั้นก็ประมาท มิได้ซ่องสุมทหารจัดแจงเรือรบเรือไล่ แลอาวุธไว้ป้องกันรักษาเมือง ถ้าเห็นด้วยข้าพเจ้าแลท่านจะยกไปครั้งนี้ก็จะได้เมืองกังแฮโดยง่าย แม้ได้เมืองกังแฮแล้วจึงยกไปตีเมืองเกงจิ๋ว ก็จะได้ทหารใหญ่น้อยเป็นอันมาก แล้วจึงค่อยยกไปตีเอาเมืองเสฉวน เมื่อได้เมืองเสฉวนแล้ว ท่านจะคิดการใหญ่หลวงให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้ก็เห็นจะสมความปราถนา

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 3)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ถึงเดือนสิบสองข้างขึ้น นางงอฮูหยินผู้เป็นมารดาซุนกวนเป็นโรคป่วยหนักลง จึงให้หาจิวยี่กับเตียวเจียวเข้ามาแล้วสั่งว่า แต่ก่อนเราเป็นชาวเมืองต๋องง่อบิดามารดาตายเป็นกำพร้า เลี้ยงกันอยู่แต่พี่น้องสามคน แลมาได้ซุนเกี๋ยนเป็นสามีจนเกิดบุตรถึงสี่คน แลเมื่อเราจะตั้ง้องซุนเซ็กผู้บุตรหัวปีนั้นเราฝันเห็นว่าดวงพระจันทร์อยู่ในครรภ์ แลเมื่อซุนกวนจะเข้าท้องนั้นฝันเห็นว่า ดวงพระอาทิตย์เข้าอยู่ในท้อง หมอทำนายว่าบุตรท่านทั้งสองนี้นานไปจะได้เป็นใหญ่ แลซุนเซ็กก็อายุน้อยถึงแก่ความตายเสียก่อน เมื่อจะใกล้ตายก็มอบเมืองกังตั๋งไว้แก่ซุนกวนผู้น้องให้เป็นเจ้าเมือง บัดนี้ตัวเราป่วยหนัก เห็นจะไม่คงชีวิตอยู่ จะลาท่านทั้งสองแล้ว แม้ว่าเราหาบุญไม่ ท่านจงได้เอ็นดูช่วยอนุเคราะห์สั่งสอนซุนกวนสืบไปโดยความชอบ อย่าทิ้งเสียเลย แล้วนางงอฮูหยินจึงสั่งแก่ซุนกวนว่า แม้สืบไปเมื่อหน้า เจ้าจะทำการสิ่งใดจงปรึกษาหารือด้วยจิวยี่แลเตียวเจียวซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ให้รู้จักผิดแลชอบ อย่าถือทิฐิมานะ จงคารวะนับถือท่านทั้งสองนี้เป็นอาจารย์ผู้ใหญ่อย่าได้ทำการแต่อำเภอใจ อนึ่งนางงอก๊กไถ้น้องเราผ้เป็นแม่น้าของเจ้านั้น ถ้าแม่ตายแล้วก็อย่าได้ละเมินเสีย จงตั้งใจอุปถัมภ์บำรุงปฏิบัติรักษาดุจตัวของแม่ อนึ่งน้องหญิงซึ่งร่วมบิดาของเจ้านั้น จงตั้งใจเลี้ยงรักษาไว้ให้โดยปรกติด้วย แม้จะให้มีสามีเจ้าจงพิเคราะห์ดู ผู้ใดมีสติปัญญาจึงยกให้เป็นภรรยา ครั้นสั่งสอนซุนกวนแล้ว นางงอฮูหยินก็สิ้นใจ ซุนกวนจึงแต่งการศพตามธรรมเนียมแล้วให้ก่อกุฎิฝังไว้

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 2)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ซุนเซียงได้ฟังดังนั้นก็ไม่เชื่อ ถึงเวลาเช้าก็ออกไปเลี้ยงขุนนาง ณ ศาลากลาง ครั้นขุนนางคำนับกินโต๊ะแล้วต่างคนต่างไป ซุนเซียงก็กลับเข้ามา พอถึงประตูจะเข้าไปข้างใน เปียนหองคนสนิทซึ่งเดินมาข้างหลังเห็นซุนเซียงประมาทมิได้ระวังตัว ก็ชักดาซึ่งซ่อนมานั้นฟันซุนเซียงล้มลงตายอยู่กับประตู อิหลำกับไต้อ้วนก็กลับจับเปียนหองว่าเป็นขบถทำร้ายแก่ซุนเซียง ให้เอาไปฆ่าเสีย แล้วก็เก็บเอาข้าวของทรัพย์สมบัติของซุนเซียงรวมไว้ แล้วอิหลำให้หาตัวนางชีฮูหยินมาว่าบัดนี้เปียนหองคิดมิชอบเป็นขบถฆ่าสามีท่านเสีย ข้าพเจ้าก็ได้แก้แค้นแทนท่านให้เอาเปียนหองไปฆ่าเสียแล้ว ตัวท่านเป็นผู้หญิงควรจะปฏิบัติตามเรา แม้มิยอมเป็นภรรยาเรา เราก็จะฆ่าเสีย นางชีฮูหยินจึงทำกลอุบายตอบว่า ตัวข้าพเจ้าเป็นหญิงหาสามีมิได้ เป็นที่คนทั้งปวงดูหมิ่น ซึ่งท่านเมตตาจะเลี้ยงข้าพเจ้าเป็นภรรยานั้นก็ควรอยู่แล้ว แต่ทว่าผัวข้าพเจ้าตายใหม่ๆ ใจยังไม่ปรกติ ขอท่านได้งดก่อน ข้าพเจ้าจะแต่งโต๊ะเซ่นวักสามีตามประเพณีแล้วจึงจะปฏิบัติตามท่านอิหลำได้ฟังดังนั้นมีความยินดีนักก็กลับไปยังที่อยู่

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 1)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


อยู่มาวันหนึ่งขงเบ้งจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า บัดนี้โจโฉขุดสระใหญ่ไว้สระหนึ่ง ชื่อว่าเหียนหมูตี้อยู่ในเมืองกิจิ๋ว ซ้อมหัดทหารทั้งปวงให้ชำนิชำนาญในการเรือ เห็นจะยกไปตีเมืองกังตั๋งเป็นมั่นคงอยู่แล้ว ขอให้ท่านแต่งคนไปสืบดูราชการเมืองกังตั๋งว่าจะรู้จัดแจงบ้านเมืองพรักพร้อมอยู่แล้วหรือหาไม่ เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็เห็นด้วยจึงแต่งคนให้ไปสืบ ณ เมืองกังตั๋ง

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เดอะ บีเทิลส์ ตำนานแอปเปิลตัวจริง

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

          ไม่มีใครในโลกนี้ไม่รู้จัก เดอะ ลีเทิลส์ (The Beatles) หรือ  4 เต่าทอง เจ้าของเพลงฮิตอมตะตลอดกาลมากมายจากเมืองลิเวอร์พูล ไม่มีใครไม่เคยฟังเพลงของพวกเขา แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า พวกเขายังเป็นผู้ให้กำเนิดบริษัท แอปเปิล เจ้าของไอโฟนและไอแพดที่โด่งดังในยุคนี้อีกด้วย
          หลังจากมีคนพบศพของไบรอัน เอ็ปสไตน์ ผู้จัดการของวงเดอะ บีเทิลส์ ที่แฟลตของเขาเอง เนื่องจากการเสพยาเกินขนาด ทุกคนในวงต่างก็รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องจัดการเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งหมดด้วยตัวเอง พอลแมกคาร์ทนีย์ เป็นผู้รับหน้าที่นี้ไป เขาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท แอปเปิลขึ้น โดยมีสมาชิกเอะ บีเทิลส์ทั้ง 4 คนเป็นหุ้นส่วน แต่เนื่องจากความยิ่งใหญ่ของวงทำให้บริษัทแอปเปิลต้องแตกไลน์ ขยายสาขาไปมากมายในเวลาเพียงไม่กี่ปี ก็เกิดบริษัทลูกในนาม แอปเปิล บูติก, แอปเปิล ฟิล์ม, แอปเปิล พับบลิชชิ่ง, แอปเปิล เรกคอร์ดส์, แอปเปิล อิเล็กทรอนิกส์, แอปเปิล คอมพิวเตอร์ และแอปเปิล รีเทล
          แต่ก็เป็นไปตามคาด ศิลปินกับธุรกิจมักไปด้วยกันไม่ค่อยได้ หลังเดอะ บีเทิลส์วงแตก แอปเปิลก็ประสบปัญหาขาดทุนสะสม พอล แมกคาร์ทนีย์ลาออกจากการเป็นผู้จัดการ อัลเลน คลน์ก็เข้ามาทำหน้าที่แทน ช่วงเวลานั้นเองที่ 2 เด็กหนุ่มอัจฉริยะจากแคลิฟอร์เนียเข้ามามีบทบาทในแอปเปิลคอมพิวเตอร์ นั่นก็คือ สตีฟ จ๊อบส์ และสตีฟ วอชเนียก พวกเขาทั้งคู่ให้กำเนิดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ชื่อ แอปเปิล 2 กลายเป็นต้นกำเนิดแห่งตำนานผลิตภัณฑ์แอปเปิล อย่างไอโฟนในปัจจุบัน

ใส่หมวก จูบภรรยา นำไทยสู่มหาอำนาจ

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

          ยุคหนึ่ง รัฐบาลไทยต้องการให้ประเทศชาติพัฒนาทัดเทียมมหาอำนาจ จึงรณรงค์ให้ประชาชนชาวไทยใช้ชีวิตเยี่ยงฝรั่ง ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้

- ห้ามนุ่งโจงกระเบน ผู้ชายต้องใส่กางเกง ผู้หญิงต้องนุ่งกระโปรง
- ออกจากบ้านทุกครั้ง  ทุกคนต้องใส่รองเท้าและสวมหมวก
- ห้ามเคี้ยวหมาก (มีการฟันต้นหมากทิ้งทั่วประเทศ)
- ชื่อของทุกคนต้องบ่งบอกเพศได้ เป็นที่มาว่าทำไมชื่อสมชาย จึงเป็นที่นิยมนัก
- ตัดความซับซ้อนของภาษาไทยออกไป สรรพนามทั้งหลายให้เหลือแค่ "ฉัน" กับ "ท่าน" เท่านั้น ท้ายประโยคก็ให้พูดว่า "จ๊ะ" แทน "ครับ" และ "ค่ะ" เพื่อความเป็นอารยะ เช่น ถ้าหนังเรื่องต้มยำกุง ถูกถ่ายทำในยุคนั้น จา พนม ก็ต้องพูดว่า "ช้างฉันอยู่ไหนจ๊ะ"
- ให้จูบภรรยาทุกครั้งก่อนไปทำงาน
- ควรกินก๋วยเตี๋ยว และให้ข้าราชการไทยขายก๋วนเตี๋ยว เพราะก๋วยเตี๋ยวนั้นมีรสอร่อย

เทพนิยายต้นฉบับ

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

          เชื่อหรือไม่ว่าต้นฉบับเทพนิยายเด็กน้อยที่เราเคยอ่านไม่ได้จบลงสวยงามมีความสุขอย่างที่เราคิด ต่อไปนี้คือเรื่องเล่าย่อๆ พอหวาดเสียวจากต้นฉบับเทพนิยายของจริง

          เจ้าหญิงนิทรา - เรื่องของเจ้าหญิงที่ถูกเข็มปั่นด้ายปักเข้าที่นิ้วจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา (ไม่รู้ปักเอาท่าไหน) วันหนึ่งมีเจ้าชายผ่านมาเห็นเข้า จึงทำการ xxxx เจ้าหญิงจนตั้งท้องและคลอดเด็กแฝดออกมาคู่หนึ่ง เด็กคู่นี้หิวนม จึงตรงเข้าไปดูดนิ้วเจ้าหญิง ทำให้เข็มที่ปักนิ้วหลุด แล้วเจ้าหญิงก็ฟื้นขึ้นมา

          หนูน้อยหมวกแดง - หนูน้อยคนนี้ไปเยี่ยมคุณยายที่กำลังป่วย แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็พบคุณยายกลายเป็นอาหารของหมาป่าไปแล้ว แต่หมาป่าก็ไม่ได้แกล้งปลอมตัวเป็นคุณยายหรอกนะ มันกระโดเข้างับหนูน้อยหมวกแดงเลือดสาด เคี้ยวหมับๆ เป็นของหวานตบท้าย เรื่องจบลงแค่นี้ ไม่มีนายพรานมาช่วยหรอก...

ระเบิดปรมาณู เกือบไม่ใช่นางาซากิ

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

          เช้าวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ชาวเมืองโคคุระรู้สึกได้ถึงลางร้ายที่กำลังมาเยือน เงาเมฆดำทะมึนปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง เมื่อ 3 วันก่อน เมืองฮิโรชิมาเพิ่งถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองจากระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก แต่ทว่าญี่ปุ่นยังไม่ประกาศยอมแพ้สงคราม เป้าหมายต่อไปของระเบิดปิศาจลูกที่ 2 ย่อมหนีไม่พ้นเมืองโคคุระ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอาวุธสงครามของกองทัพญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

ที่มาของแกงการู

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

          สมัยที่กัปตันเจมส์ คุก และนักธรรมชาติวิทยา เซอร์ โจเซฟ แบงกส์ เดินทางไปสำรวจกินแดนออสเตรเลียที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่ (ในทรรศนะของชาวตะวันตก) พวกเขาเหลือบไปเห็นสัตว์ประหลาดที่มีกระเป๋าหน้าท้อง กระโดดโหยงเหยงไปมา ด้วยความประหลาดใจ จึงสะกิดถามชาวพื้นเมืองด้วยความใคร่รู้ว่า มันคือตัวอะไร ชาวอะบอริจินพื้นเมืองก็หันมาตอบทันใดว่า "แกงการู" นับแต่นั้นมา แกงการู (หรือที่คนไทยเรียกว่าจิงโจ้) ก็กลายเป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกและชาวโลก
          แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว คำว่า "แกงการู" เป็นภาษาของชาวอะบอริจิน แปลว่า "พูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ" ชาวอะบอริจินฟังภาษาอังกฤษไม่ออกนั่นเอง

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 9)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขงเบ้งจึงตอบว่า อันแผ่นดินเกิดจลาจลตราบเท่าทุกวันนี้ก็เพราะตั๋งโต๊ะนั้นเป็นต้น ฝ่ายโจโฉเล่า ที่ซ่องสุมทหารทั้งปวงแล้วยกไปกำจัดอ้วนเสี้ยวได้นั้นใช่ว่าจะสำเร็จด้วยกำลังทหารมากก็หาไม่ ทหารโจโฉน้อยกว่าทหารอ้วนเสี้ยวอีก แลอาจสามารถทำการใหญ่หลวงสำเร็จได้ทั้งนี้ก็เพราะปัญญาแลความคิดของตัวถึงมาตรว่าโจโฉเป็นคนชั่ว มิได้มีความกตัญญูต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ คิดอ่านทำการหยาบช้าถึงเพียงนี้แล้วก็ดี ก็ยากที่จะกำจัดโจโฉได้โดยง่าย

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 8)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เตียวหุยจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ท่านอุตส่าห์พยายามมาหาขงเบ้งก็มิพบ จะอยู่ช้าไปไยเล่า เวลาก็เย็นลงจวนฝนจะตกพายุพัดหนาวหนัก จงรีบกลับไปเถิด เล่าปี่จึงว่ากับเตียวหุยว่า เรามายังมิทันเจรจาได้สักสองคำเลย ท่านมาด่วนรบให้รีบกลับไปจะประโยชน์สิ่งใด แล้วจึงถามจูกัดกิ๋นว่า เราได้ยินเขาเลื่องลือว่าพี่ท่านมีสติปัญญา ร่ำเรียนวิชารู้หลักแหลมเป็นอันมาก ตัวท่านเป็นน้องยังแจ้งว่าทุกวันนี้ยังเรียนสิ่งใดอยู่ จูกัดกิ๋นจึงว่า พี่ข้าพเจ้ามีสติปัญญาก็จริงอยู่ แต่ซึ่งจะร่ำเรียนวิชาสิ่งใดนั้น ข้าพเจ้าหาล่วงรู้ไม่

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 7)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่า กวนอู เตียวหุยก็ขึ้นม้าพากันไป ณ เมืองซินเอี๋ย อยู่สี่ห้าวันเล่าปี่จึงแต่งให้คนใช้ไปซับซาบดูขงเบ้ง ครั้นคนใช้กลับาบอกว่าขงเบ้งกลับมาที่อยู่แล้ว เล่าปี่จึงจัดแจงสิ่งของจะไปหาขงเบ้ง เตียวหุยจึงว่าท่านจะมาหลงนับถือว่าขงเบ้งเป็นคนมีสติปัญญา จะอุตส่าห์ทรมานกายไปหาให้ลำบากนั้นหาต้องการไม่ จะนับถืออะไรกับขงเบ้งเป็นคนบ้านนอก ข้าพเจ้าจะให้แต่ทหารไปเอามาก็จะได้ เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่า ขงเบ้งเป็นคนมีสติปัญญา เหตุใดท่านมาประมาทหยาบช้าดังนี้ ว่าแล้วก็ขึ้นม้าออกไปกับคนใช้ กวนอู เตียวหุยเห็นดังนั้นก็ขึ้นม้าตามออกไปทางประมาณสามสิบเส้น พอน้ำค้างตกลงหนาวเป็นกำลัง เตียวหุยจึงว่าเทศกาลนี้เป็นฤดูหนาว อันยามหนาวเช่นนี้แม้จะคิดอ่านทำการสงครามเอาบ้านเมืองนั้นก็ยังต้องงดไว้ ควรแล้วหรือมานับถือขงเบ้งซึ่งเป็นชาวบ้านนอกนี้หาเป็นประโยชน์ไม่ ขอท่านกลับไปเมืองก่อนเถิด

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 6)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่าปี่ กวนอู เตียวหุยก็ลงจากม้าเดินเข้าไปถึงประตูบ้าน เล่าปี่จึงพิเคราะห์ดูภูมิฐานบ้านเรือนเห็นสะอาดสะอ้านชอบมาพากล แม้เทศกาลร้อนก็มิได้ร้อน เพราะลมพัดมาได้ เมื่อถึงฤดูฝนก็เป็นที่ร่มปิดหยาดฝนมิได้ถูกต้อง หน้าฤดูหนาวก็มิได้เย็นด้วยละอองน้ำค้าง สมควรเป็นที่อยู่ผู้มีสติปัญญาจริง
เล่าปี่เห็นดังนั้นก็ยิ่งมีความยินดีเป็นอันมาก แล้วก็เดินเข้าไปถึงประตูเรือนเด็กน้อยคนใช้จึงถามว่า ท่านชื่อใดมาแต่ไหน เล่าปี่จึงบอกว่าเราชื่อ ห้วนจงกุ๋นยี่เซงเตงเฮาเล่าปี่ เป็นเชื้อวงศ์ของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จะมาคำนับอาจารย์ของท่าน เด็กนั้นจึงบอกว่า ท่านบอกชื่อมากนักเราจำมิได้ เล่าปี่จึงว่า ถ้าจำชื่อเรามิได้ จงเข้าไปบอกแก่อาจารย์ว่าแต่เล่าปี่มาหาเถิด เด็กนั้นจึงว่า บัดนี้อาจารย์ข้าพเจ้าไม่อยู่ จะไปตำบลใดมิได้แจ้ง เล่าปี่จึงว่าเมื่อไรจะกลับมาเล่า เด็กนั้นจึงบอกว่า อันอาจารย์ข้าพเจ้าไปนี้จะกำหนดว่ามาช้าแลเร็วนั้นไม่ได้ บางทีสามวันบ้าง ห้าวันบ้างสิบวันบ้างจึงจะกลับมา

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 5)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่าปี่ครั้นส่งชีซีไปแล้ว กลับเข้ามาถึงเมืองก็จัดแจงสิ่งของซึ่งจะไปหาขงเบ้ง พอนายประตูเข้ามาบอกว่า บัดนี้อาจารย์ผู้หนึ่งเป็นคนผู้ใหญ่รูปร่างงาม แต่งตัวเป็นคนสุภาพมาหาท่าน เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็สำคัญว่าขงเบ้งมาก็ดีใจ จึงขมีขมันออกมารับ ก็เห็นสุมาเต๊กโช เล่าปี่มีความยินดีหาที่สุดมิได้ จึงเชิญเข้าไปนั่งแล้วคำนับว่า แต่ข้าพเจ้ามาจากท่านวันนั้น ก็มีใจรำลึกถึงอยู่คิดจะไปเยือน ท่านมาบัดนี้มีกิจธุระสิ่งใดหรือ สุมาเต๊กโชจึงบอกว่า เรามาบัดนี้จะมีธุระก็หาไม่ ด้วยรู้ว่าชีซีมาทำราชการอยู่ด้วยท่าน มีใจรำลึกถึงก็มาเยือน เล่าปี่จึงบอกเนื้อความซึ่งชีซีจากไปนั้นให้สุมาเต๊กโชฟังทุกประการ