thepoetry4u.blogspot.com
เป็นไรมี แล้วว่าครั้งพระเจ้าหวนเต้ได้เสวยราชสมบัตินั้น มีชายคนหนึ่งชื่ออิกุ๋ย ชาวเมืองเสียวตั๋ง มาขออาศัย ณ เรือนข้าพเจ้า ครั้นเวลากลางคืน เห็นดาขึ้นข้างฝ่ายเหนือดวงหนึ่งใหญ่มีรัศมีเหลือง อิกุ๋ยนั้นรู้ตำราดูดาวจึงทำนายไว้ว่า ยังอีกห้าสิบปีจะมีผู้มีบุญมาปราบศัตรูที่ตำบลแม่น้ำฮองโห ข้าพเจ้านับแต่อิกุ๋ยทำนายมาจนถึงทุกวันนี้ก็ครบห้าสิบปีแล้ว อันอ้วนเสี้ยวนั้นหาสติปัญญามิได้ จะทำการสิ่งใดก็มีแต่หยาบช้าซึ่งยกกองทัพมารบท่านถึงตำบลกัวต๋อนั้น ทหารอ้วนเสี้ยวก็มีมากกว่าท่านถึงเก้าส่วนสิบส่วน เผอิญให้ท่านรบแตกไป ข้าพเจ้าเห็นว่าตัวท่านเป็นผู้มีบุญเหมือนอิกุ๋ยทำนายไว้ แลอาณาประชาราษฎรข้าขอบขัณฑเสมาครั้งนี้ จะอยู่เย็นเป็นสุขเพราะบุญของท่านสืบไป
โจโฉได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วแกล้งถ่อมตัวว่า ท่านผู้เฒ่าจะหมายว่าข้าพเจ้าเป็นผู้มีบุญนั้นไม่ควร โจโฉจึงเอาเงินทองเสื้อผ้าอย่างดีให้แก่คนชราทั้งสี่คนเป็นบำเหน็จปาก แล้วสั่งทหารอย่าให้ช่วงชิงข้าวปลาอาหารของราษฎรทั้งปวงถ้าไม่ฟังเราจะให้ลงโทษถึงตาย คนชราทั้งสี่คนนั้นก็ลาโจโฉกลับไป ขณะนั้นอาณาประชาราษฎรรู้ว่าโจโฉสั่งกำชับทหารดังนั้นก็ดีใจ มีความรักโจโฉเป็นอันมาก โจโฉรู้กิตติศัพท์ว่าราษฎรทั้งปวงรักใคร่ก็มีความยินดี พอม้าใช้มาบอกโจโฉว่าบัดนี้อ้วนเสี้ยวยกกองทัพมาทั้งสี่หัวเมือง ทหารนั้นประมาณสามสิบหมื่น ตั้งอยู่ตำบลซองเต๋ง
โจโฉแจ้งดังนั้นก็เกณฑ์ทหาร แล้วยกไปตั้งประชิดค่ายอ้วนเสี้ยว ฝ่ายอ้วนเสี้ยวเห็นโจโฉมาตั้งประชิดอยู่ดังนั้น ก็พาบุตรทั้งสามคนกับหลายแลทหารทั้งปวงออกมายืนม้าอยู่หน้าค่าย โจโฉเห็นดังนั้นก็ยกออกไปจากค่าย จึงขับม้าฝ่าขึ้นไปหน้าทหารแล้วร้องว่าแก่อ้วนเสี้ยวว่า ตัวเสียทีแก่เราแล้วเหตุใดไม่มาอ่อนน้อมต่อเรา จะให้อาวุธถึงคอก่อนหรือจึงจะรู้สำนึก อ้วนเสี้ยวได้ยินดังนั้นก็โกรธ จึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่าผู้ใดจะอาสาออกไปรบกับโจโฉได้
อ้วนซงผู้บุตรก็รับอาสาขับม้ารำกระบี่สองมือออกไป จะรบด้วยโจโฉ โจโฉเห็นดังนั้น จึงถามทหารทั้งปวงว่า ทหารอ้วนเสี้ยวคนนี้เราเห็นแปลกหน้า ผู้ใดยังรู้จักบ้าง ทหารโจโฉจึงบอกว่า ชื่ออ้วนซงเป็นบุตรอ้วนเสี้ยว ขณะเมื่อทหารบอกแก่โจโฉยังมิทันสิ้นคำนั้น สูฮวนซึ่งเป็นทหารรองซิหลง ขับม้ารำทวนออกไปรบกับอ้วนซงได้สามเพลง อ้วนซงทำทีชักม้าถอยหนี สูฮวนมิได้รู้กลก็ขับม้าไล่ตามไป อ้วนซงเห็นได้ทีก็เอาเกาทัณฑ์ยิงถูกจักษุสูฮวนตกม้าตาย อ้วนเสี้ยวเห็นอ้วนซงมีชัยชนะทหารโจโฉก็มีใจกำเริบ ขัดทหารทั้งเข้ารบพุ่งหักหาญเป็นสามารถ
ฝ่ายทหารโจโฉรบต้านทานไว้ได้ ทหารทั้งสองฝ่ายล้มตายเป็นอันมาก ครั้นเวลาเย็นโจโฉกับอ้วนเสี้ยวต่างคนต่างเลิกเข้าค่าย ในเวลากลางคืนนั้นโจโฉจึงปรึกษากับทหารทั้ง เทียหยกจึงว่า ขอให้ท่านจัดทหารออกเป็นสิบเอ็ดกองให้ซุ่มรายกันอยู่สองข้างทางสิบกอง กองหนึ่งนั้นให้ล่อมา ถ้าได้ที่มั่นแล้วก็ให้จุดประทัดสัญญาณขึ้น จึงให้กองล่อนั้นหยุดยืนประจัญรบพุ่ง แม้กองทัพอ้วนเสี้ยวถอยระส่ำระสายไป ฝ่ายกองทัพซึ่งซุ่มอยู่สองข้างทางทั้งสิบกองนั้น จึงยกออกโจมตีตัดเอาทหารอ้วนเสี้ยว ก็จะได้ชัยชนะโดยง่าย
โจโฉเห็นชอบด้วย จึงจัดนายทหารฝ่ายขวาห้ากองนั้น คือ โจหอง เตียวคับ ซิหลง อิกิ๋ม โกลำ ฝ่ายซ้ายนั้นให้แฮหัวตุ้น เตียวเลี้ยว ลิเตียน งักจิ้น แฮหัวเอี๋ยน คุมทหารทั้งสิบกองไปซุ่มรายทางไว้ แล้วสั่งว่า ถ้าเห็นได้ทีจึงให้ยกออกรบพุ่งตัดทหารอ้วนเสี้ยวรายทางไป นายทหารทั้งสิบกองคุมทหารไปซุ่มอยู่ในเวลากลางคืนตามคำโจโฉสั่ง ครั้นเวลากลางคืนประมาณสามยามเศษ โจโฉจึงสั่งเคาทูให้คุมทหารไปทำทีจะปล้นค่ายอ้วนเสี้ยว ถ้าเห็นทหารอ้วนเสี้ยวยกออกรบพุ่ง ท่านจงพาทหารถอยมา เราก็จะทิ้งค่ายเสีย เคาทูกคุมทหารไปตามคำโจโฉสั่ง
ฝ่ายอ้วนเสี้ยวได้ยินทหารโห่ร้องเข้ามาปล้นค่ายดังนั้น ก็เกณฑ์ทหารสิ้นทั้งสี่กองออกรบพุ่งเป็นสามารถ เคาทูก็คุมทหารมา โจโฉเห็นดังนั้นก็พาทหารเข้าบรรจบเคาทูถอยป้องกันไป อ้วนเสี้ยวเห็นดังนั้นก็เร่งขับทหารตามไปจะใกล้ถึงแม่น้ำฮองโห พอสว่างขึ้น โจโฉก็จุดประทัดสัญญาณ แล้วร้องประกาศแก่ทหารทั้งปวงว่า เหตุใดจึงไม่ยืนรบ จะถอยไปถึงไหน จะพอใจจมน้ำตายหรือ ทหารทั้งปวงได้ฟังโจโฉร้องมาดังนั้นกลัวจะจมน้ำตาย ก็ชวนกันกลับหน้ายืนรบพุ่งต้านทานThepoetry4u.: Tony
ที่มา : หนังสือสามก๊ก (ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง หน)
ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง..ด้วยความเคารพจากใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น