thepoetry4u.blogspot.com
ขณะนั้นตั้งแต่พระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จมาอยู่ ณ เมืองฮูโต๋ได้แปดปีแล้ว (พ.ศ.๗๔๖) ครั้นถึงเดือนสามข้างขึ้น โจโฉจึงให้แฮหัวตุ้นกับหมันทองคุมทหารไปอยู่รักษาเมืองยีหลำ หวังจะขัดทัพเล่าเปียวไว้ ให้ซุนฮกกับโจหยินอยู่รักษาเมืองฮูโต๋ แล้วโจโฉก็จัดแจงทหารเป็นอันมากยกไปตีเอาเมืองอ้วนเสี้ยว ครั้นถึงตำบลแม่น้ำฮองโหจึงให้ข้ามไปตั้งคอยฟังข่าวอ้วนเสี้ยวอยู่
ฝ่ายอ้วนเสี้ยวครั้นเข้าปีใหม่ค่อยคลายป่วย ก็จัดแจงทหารจะยกไปตีเอาเมืองฮูโต๋ สิมโพยจึงห้ามว่า ครั้งก่อนนั้นท่านเสียทีแก่โจโฉที่ตำบลกัวต๋อครั้งหนึ่ง ซองเต๋งครั้งหนึ่ง เสียทหารเป็นอันมาก แลทหารซึ่งเหลือนั้นก็ยังอิดโรยอยู่ ขอท่านยับยั้งบำรุงทหารให้มีกำลังก่อนแล้วจึงค่อยคิดการต่อไป
ขณะนั้นพอม้าใช้มาบอกอ้วนเสี้ยวว่า โจโฉยกกองทัพมาตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮองโหแลกิตติศัพท์นั้นว่าจะยกมาตีให้ถึงเมืองกิจิ๋ว อ้วนเสี้ยวแจ้งดังนั้นจึงว่าแก่สิมโพยว่า เราจะยกกองทัพไปตีเมืองฮูโต๋ท่านมาห้ามปรามไว้ บัดนี้โจโฉก็ยกมาแล้วท่านจะนิ่งอยู่ให้กองทัพมาตีถึงกำแพงเมืองหรือ ครั้งนี้เราจะยกไปล้างโจโฉเสียให้จงได้ อ้วนซงผู้บุตรจึงว่า บิดาป่วยพึ่งจะค่อยคลายยังไม่หายสนิท ซึ่งจะยกกองทัพไปนั้นโรคก็จะกำเริบมากขึ้น ข้าพเจ้าจะขออาสาคุมทหารไปทำการสงครามด้วยโจโฉ อ้วนเสี้ยวก็ยอม แล้วแต่งหนังสือให้ไปเร่งกองทัพเมืองเซียงจิ๋ว เมืองอิวจิ๋ว เมืองเป๊งจิ๋ว ให้มาบรรจบอ้วนซง อ้วนซงนั้นตั้งแต่ได้ออกรบฆ่าสูอวนได้ก็มีใจกำเริบมา
ขณะเมื่ออ้วนเสี้ยวให้ไปเร่งกองทัพทั้งสามหัวเมืองนั้น อ้วนซงมิได้อยู่ท่าจึงคุมทหารประมาณห้าหมื่นเศษ รีบยกไปตั้งค่ายประชิดโจโฉ โจโฉเห็นดังนั้นก็ให้เตียวเลี้ยวคุมทหารออกไปรบด้วยอ้วนซง อ้วนซงขับม้ารำทวนเข้าสู้กันกับเตียวเลี้ยวได้สามเพลง อ้วนซงทานกำลังเตียวเลี้ยวมิได้ก็ขับม้าหนี เตียวเลี้ยวขับม้าไล่ฆ่าฟันทหารอ้วนซงล้มตายเป็นอันมาก อ้วนซงพาทหารซึ่งเหลือตายนั้นรีบหนีกลับเข้าไปในเมืองกิจิ๋ว
ฝ่ายอ้วนเสี้ยวรู้ว่าอ้วนซงแตกหนีมาก็ตกใจ โรคซึ่งป่วยนั้นก็กำเริบขึ้นอาเจียนโลหิตไหลออกมาถังหนึ่ง ล้มลงสลบอยู่กับที่ นางเล่าซือผู้เป็นภรรยาเห็นดังนั้นก็ตกใจ จึงชวนหญิงคนใช้ทั้งปวงอุ้มอ้วนเสี้ยวเข้าไปถึงที่ข้างใน แล้วให้หาสิมโพย ฮองกี๋เข้ามาปรึกษากัน ซึ่งจะให้อ้วนซงเป็นเจ้าเมืองกิจิ๋วแทนตัว
ขณะนั้นอ้วนเสี้ยวฟื้นขึ้น ได้ยินดังนั้นแต่เจรจาไม่ออก จึงเอามือชี้เข้าที่อกของตัว แลนางเล่าซือเห็นอ้วนเสี้ยวเอามือชี้เข้าที่อกดังนั้น ก็เข้าใจว่าจะให้อ้วนซงเป็นเจ้าเมือง จึงแกล้งถามอ้วนเสี้ยงหวังจะให้คนทั้งปวงได้ยินประจักษ์ว่าเมืองกิจิ๋วนี้จะให้แก่อ้วนซงหรือ อ้วนเสี้ยวเจรจาไม่ออกก็พยักหน้าเอา พอลมปะทะขึ้นมาร้องด้วยเสียงอันดัง แล้วก็ชักเหลียวหลังมาก็สิ้นใจตาย
สิมโพยกับฮองกี๋เห็นอ้วนเสี้ยวตายแล้ว ก็ช่วยกันแต่งการศพอยู่ นางเล่าซือจึงเอาตัวนางทั้งห้าคน ซึ่งเป็นภรรยาน้อยที่อ้วนเสี้ยวรักใคร่นั้นมาฆ่าเสีย แล้วคิดหึงหวงกลัวว่าตายไปนั้นจะพบกับอ้วนเสี้ยว อ้วนเสี้ยวจะผูกพันรักใคร่อยู่อีก จึงให้เอาดาบมาตัดผมแลแขน แล้วสับหน้าเสียให้เป็นบาดแผล หวังจะให้อ้วนเสี้ยงพึงเกลียดชัง แล้วให้เอาศพหญิงห้าคนไปทิ้งเสีย อ้วนซงเห็นมารดาทำดังนั้น ก็คิดเกรงญาติพี่น้องของหญิงห้าคนจะมีใจพยาบาทแก่มารดาแลตัวจึงให้ทหารไปจับเอาญาติพี่น้องหญิงห้าคนนั้นมาฆ่าเสีย ฝ่ายสิมโพยกับฮองกี๋จึงแต่งการยกอ้วนซงขึ้นเป็นเจ้าเมืองกิจิ๋ว แล้วแต่งหนังสือให้ทหารถือออกไปถึงอ้วนถำกับอ้วนฮี โกกันว่า บัดนี้อ้วนเสี้ยวถึงแก่ความตายแล้ว
ฝ่ายอ้วนถำยกกองทัพมาใกล้จะถึงเมืองกิจิ๋ว พบผู้ถือหนังสือแจ้งเหตุทั้งปวงว่าบิดาตายแล้ว จึงปรึกษากัวเต๋ากับซินเบ้งว่า บัดนี้บิดาเราถึงแก่ความตายแล้ว เราจะคิดประการใด กัวเต๋าจึงว่าตัวท่านเป็นบุตรผู้ใหญ่มิได้อยู่ในเมือง ข้าพเจ้าเห็นว่าสิมโพยกับฮองกี๋จะให้อ้วนซงเป็นเจ้าเมืองแทนบิดาท่าน ขอท่านเร่งยกเข้าไปในเมือง แล้วให้ขุนางทั้งปวงปรึกษาตามประเพณีจึงจะควร ซินเข้งก็ตอบว่า ซึ่งจะให้อ้วนถำเข้าไปถึงในเมืองนั้นไม่ได้ ด้วยสิมโพยกับฮองกี๋เป็นต้นคิด เกลือกจะทำกลไว้ประการใดอันตรายจะมีแก่เราต่างๆ กัวเต๋าจึงว่า ซึ่งท่านสงสัยดังนั้นก็ชอบอยู่ จงให้หยุดทหารไว้นี่ก่อน แต่ตัวข้าพเจ้าผู้เดียวจะขออาสาเข้าไปในเมือง ฟังดูดีแลร้ายให้ประจักษ์ แล้วจึงจะคิดอ่านต่อไป อ้วนถำกับซินเบ้งก็เห็นด้วย กัวเต๋าก็ลาอ้วนถำรีบเข้าไปหาอ้วนซง อ้วนซงจึงถามกัวเต๋าว่า อ้วนถำพี่เรามาด้วยหรือไม่ กัวเต๋าจึงบอกว่า อ้วนถำรู้หนังสือซึ่งให้เร่งกองทัพนั้น ก็รีบยกมาตั้งอยู่นอกเมือง แต่อ้วนถำเป็นปัจจุบันป่วยอยู่ บัดนี้ใช้ให้ข้าพเจ้าเข้ามาฟังดูว่าจะยกกองทัพไปรบโจโฉเมื่อใด อ้วนซงจึงว่าเมื่อบิดายังไม่ตายนั้นได้สั่งไว้ให้เราเป็นเจ้าเมืองกิจิ๋ว ให้ถ้วนถำนั้นคงอยู่เป็นเจ้าเมืองเซียงจิ๋ว บัดนี้โจโฉก็ยกกองทัพมาตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮองโห ท่านจงกลับออกไปบอกแก่อ้วนถำให้ยกเป็นกองหน้าไปทำการสงครามด้วยโจโฉก่อน แล้วเราจะยกกองทัพไปช่วยกัวเต๋าจึงตอบว่า ถ้วนถำสั่งข้าพเจ้ามาให้แจ้งเนื้อความแก่ท่านว่า ในกองทัพซึ่งยกมาบัดนี้หามีผู้ใดซึ่งมีสติปัญญาจะปรึกษาการสงครามไม่ อ้วนถำจะขอสิมโพยกับฮองกี๋ไปด้วจจะได้ช่วยคิดการ อ้วนซงจึงว่าซึ่งเราจะยกเป็นกองหลวงไปนี้ ก็จะได้อาศัยแต่ความคิดสิมโพย ฮองกี๋ เมื่ออ้วนถำให้มาขอไปแล้ว เราจะได้ผู้ใดเป็นที่ปรึกษาเล่า กัวเต๋าจึงว่าถ้าท่านไม่ให้ทั้งสองคน ก็ขอแต่สิมโพยหรือฮองกี๋ไปด้วยแต่สักคนหนึ่งเถิด อ้วนซงมิได้รู้กลอุบาย ครั้นจะขัดอ้วนถำก็ไม่ได้จึงเขียนชื่อสิมโพย ฮองกี๋เสี่ยงทาย ถ้าจับถูกชื่อผู้ใดก็จะให้ผู้นั้นไป อ้วนซงจับถูกชื่อฮองกี๋ก็บังคับให้ฮองกี๋ไป แล้วอ้วนซงก็แต่งหนังสือให้ไปถึงอ้วนถำว่า เราให้ฮองกี๋มาเป็นที่ปรึกษาให้อ้วนถำยกเป็นกองหน้ารีบเข้าไปทำสงครามด้วยโจโฉเราจึงจะยกกองหลวงไปช่วย กัวเต๋ากับฮองกี๋ก็รับเอาหนังสือแล้วลาอ้วนซงไปถึงกองทัพอ้วยถำ ฮองกี๋นั้นเห็นอ้วยถำมิได้ป่วยเหมือนคำกัวเต๋าก็คิดฉุกใจไม่มีความสบาย กัวเต๋าจึงส่งหนังสือให้อ้วนถำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น