วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พลังแห่งการตัดสินใจ

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


     เช่นเดียวกับพลังแห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่ในทุกๆ เมล็ดพันธุ์พืชเล็กๆ เราเองมีพลังมหาศาลที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัว การตัดสินใจและความคิดเป็นเหมือนสลักที่จะปลดปล่อยพลังมหาศาลนี้ออกมา เพื่อเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริงโดยต้องเริ่มต้นจากการตัดสินใจก่อนที่จะมีการลงมือหรือการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับชีวิตของใครสักคน ย่อมต้องเริ่มจากการตัดสินใจของคนๆ นั้นเสียก่อน


     สิ่งที่แตกต่างไปจากสัตว์ คือมนุษย์เราไม่จำเป็นต้องตกเป็นเหยื่อของรหัสพันธุกรรมหรือเงื่อนไขในอดีตของตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องก้มหน้ารับชะตากรรม ไม่จำเป็นต้องใช้สภาวะแวดล้อมมาเป็นปัจจัยกำหนดบทสรุปให้ตัวเอง แม้ว่าวันนี้จะมีอุปสรรคก็ใช่ว่าเราจะก้าวข้ามไปไม่ได้ หากเราไม่มีความสุขกับวันนี้ ก็ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ ราล์ฟ วัลโด เอเมอร์สันกล่าวว่า "อย่างเดินไปตามเส้นทางที่มีคนแผ้วถางไว้แล้ว จงไปในเส้นทางใหม่แล้วบุกเบิกเส้นทางนั้นด้วยตัวท่านเอง" การตัดสินใจคือพลังที่จะเปลี่ยนทิศทางชีวิตของคุณนั่นเอง

     ทุกๆ คนบนโลกนี้มีพลังอย่างหนึ่งที่เรียกว่า "ความอิสระ" เรามีอิสระที่จะเลือกตัดสินใจยังไงก็ได้ เรามีอิสระที่จะคิดอย่างที่เราคิด ฝันอย่างที่เราฝัน เรามีอิสระที่จะเลือกพฤติกรรมและผลลัพธ์ให้ตัวเอง หลายคนเลือกใช้ความอิสระนี้เพื่อสร้างความสำเร็จ ขณะที่อีกหลายคนไม่ได้เลือกทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะร้ายหรือดี สิ่งที่เราประสบพบเจอต่างเป็นผลจากการตัดสินใจของเราเองทั้งสิ้น ลองมองดูกันว่าพลังของการตัดสินใจมีผลต่อชีวิตได้มากแค่ไหน

     ปี ค.ศ. 1955 โรซ่า ปาร์ค ตัดสินใจที่จะไม่ยอมลุกให้คนผิวขาวนั่งบนรถบัสนั่นคือจุดเริ่มต้นที่นำมาซึ่งการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่ มันคือการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อการเรียกร้องสิทธิ การต่อต้านการเหยียดผิวไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา นี่คือหนึ่งตัวอย่างจากผลของการตัดสินใจ

     แลนซ์ อาร์มสตรอง เป็นอีกตัวอย่างที่ดี แชมเปียน 6 สมัยของทัวร์ นาเมนต์ ตู เดอ ฟรองซ์ เมื่ออายุได้ 25 ปี เขาโชคร้ายเมื่อโดนมะเร็งร้ายเล่นงาน เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังปอดและสมองของเขา กระทั่งแพทย์ยังสรุปว่าเขาจะมีชีวิตได้อีกไม่กี่ปี ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาเอง แลนซ์เล่าว่าเขากลัวมากและเคยคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้โลดแล่นบนอานจักรยานอีก เขาสารภาพว่าเคยมีช่วงเวลาที่เขาคิดจะยอมแพ้ แต่ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะสู้ เลือกที่จะมีชีวิตต่อไป เลือกที่จะมีสุขภาพที่ดีและกลับไปแข่งจักรยานให้ได้อีกครั้ง เขาตัดสินใจที่จะไม่ยอมพ่ายแพ้ให้กับโรคร้ายและพยายามทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเอาชนะความท้าทายสำคัญนี้ ขณะที่เป็นคนอื่นๆ อาจยอมถอดใจไปแล้ว แต่แลนซ์เลือกที่จะสู้สุดตัว ปัจจุบันเขาคือสุดยอดตำนานแชมเปียนทั้งในและนอกสนามแข่งที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพราะเขาเลือกที่จะต่อสู้ ต่อสู้อย่างถวายหัวนั่นเอง

     ในทางกลับกัน การตัดสินใจที่ผิดพลาด ก็ทำให้เราต้องสูญเสียเอลวิส เพรสลี่ย์, จอห์น เลนนอน, เคิร์ท โคเบน, จอห์น เบลุชชื่ และอื่นๆ อีกมากมาย การตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้บริหาร ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่างเอนรอนต้องล้มละลายลงในชั่วข้ามคืน เมื่อดูความแตกต่างระหว่างมหาตมะ คานธีกับฮิตเลอร์ การตัดสินใจคือสิ่งที่กำหนดสถานะของการบันทึกเรื่องราวของคนทั้งคู่ไว้แตกต่างกันในประวัติศาสตร์

     คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใส่ใจกับความสำคัญจากการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีผลกระทบในทันที แต่จะส่งผลเมื่อเวลาผ่านไปอีกระยะหนึ่งอาจะนานหลายเดือนหรือหลายปี การตัดสินใจบางอย่างอาจมีผลต่อชีวิตเราทั้งชีวิต

     ลองคิดถึงเวลาที่ทำการตัดสินใจอะไรบางอย่างเมื่อเช้านี้กันดูเมื่อคุณตื่นนอน คุณทำอะไรบ้าง รีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างกระฉับกระเฉง หรือนอนอู้ต่อไป จากนั้นคุณทานอะไรในมื้อเช้า คุณได้ทำอะไรดีๆ หรือใส่ใจสมาชิกในครอบครัวหรือเปล่า เมื่อคุณมาถึงที่ทำงาน สิ่งที่คุณทำเป็นอย่างแรกคืออะไร คุณยิ้มแย้มทักทายคนอื่นๆ หรือเปล่า ฯลฯ คุณอาจคิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่รับรองว่ามันจะส่งผลต่อตัวคุณเองในระยะยาวแน่นอน ลองจินตนาการดูว่า คุณนอนต่ออีกวันละครึ่งชั่วโมง ลองถามตัวเองว่ามันจะส่งผลลบต่อเป้าหมายในชีวิตคุณหรือเปล่า คุณตอบคำถามนี้ได้แน่ๆ! หรือการที่คุณดูแลและเอาใจใส่คนรักและสมาชิกในครอบครัวจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของคุณหรือไม่ แน่นอนคำตอบคือใช่!

     ขอย้ำอีกครั้งว่าทุกการตัดสินใจที่เราทำจะนำเราเข้าใกล้ความสำเร็จที่เราตามหาหรือทำให้เราขยับห่างออกมาจากมันเสมอ โดยปกติแล้วคนเราจะไม่สูญเสียความสัมพันธ์ภายในชั่วคืน แต่มักจะเกิดจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียมากกว่า เราไม่มีทางตื่นเช้ามาพร้อมกับหุ่นที่ผอมเพรียวอย่างที่ต้องการได้ในข้ามคืน เช่นเดียวกับที่ไม่มีทางอ้วนฉุได้จากการกินเพียงวันเดียว เราไม่มีทางเป็นสิงห์อมควันได้จากการสูบบุหรี่เพียงมวนเดียว

     ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากนี้ เราไม่อาจประสบความสำเร็จได้ทุกๆ อย่างหรือมีชีวิตในแบบที่ฝันได้ในชั่วข้ามคืน

     ตัวอย่างต่างๆ ที่หยิบยกมาอาจจะดูเล็กน้อยและไม่สลักสำคัญอะไรมากนักแต่ก็ให้แนวคิดได้อย่างชัดเจน และเมื่อมาถึงการตัดสินใจที่มีความสำคัญและจะกำหนดปลายทางที่คุณต้องการ เช่น เมื่อตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ยอมพ่ายแพ้ เมื่อตัดสินใจที่จะลงมือทำโดยไม่เอาแต่กังวลและกลัวทำไม่ได้ เมื่อตัดสินใจที่จะทุ่มเทอย่างสุดตัว และแม้เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ การได้ตัดสินใจก้าวไปตามที่ฝันแทนที่จะเอาแต่หยุดอยู่กับที่ การตัดสินใจเหล่านี้คือการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ ที่จะส่งผลต่อชีวิตของคุณอย่างยิ่ง

     ขอย้ำอีกครั้งว่าจุดที่คุณกำลังเป็นอยู่ในปัจจุบันคือสิ่งที่เป็นผลลัพธ์มาจากความคิดและความเชื่อของคุณ ซึ่งถูกแปลงต่อไปเป็นความต้องการและนำไปสู่การกระทำ หากเรามีความต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต ก็ต้องเปลี่ยนการตัดสินใจให้ดีขึ้น ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ

     การตัดสินใจต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของคุณคือ "การตัดสินใจที่แท้จริง" เมื่อมีการตัดสินใจที่แท้จริง คุณจะกันตัวเองออกจากตัวเลือกอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ในหนังสือ Think and Grow Rich นโปเลียน ฮิลล์ กล่าวถึงเรื่องนายพลคนหนึ่งที่สั่งให้เผาเรือทิ้ง หลังจากนำเสบียงและลำเลียงพลขึ้นบกแล้ว โดยประกาศเด็ดขาดว่า "เราต้องชนะให้ได้ หรือไม่ก็ตายกันที่นี่"

     การตัดสินใจหรือ Decision นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาละตินที่แปลว่า "ตัดขาดจาก...." ในชีวิตของทุกคนย่อมต้องมีช่วงเวลาที่ต้องทำการตัดสินใจที่แท้จริง การตัดสินใจที่คุณเชื่อมั่นลึกๆ ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการและไม่มีตัวเลือกสำหรับการหันหลังกลับ

     การจะก้าวไปยังจุดของการตัดสินใจที่แท้จริงนั้นต้องใช้เวลา คุณเคยรู้สึกแย่เพราะการตัดสินใจบางครั้งหรือเปล่า ผมเองต้องพยายามลดน้ำหนักหลายครั้งกว่าจะทำได้จริงๆ ผมเคยมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ถึง 40 ปอนด์ และไม่เคยทำอย่างที่ต้องการได้เลย จนกระทั่งมุ่งมั่นว่าจะลดน้ำหนักและขจัดไขมันออกไปจากร่างกายจริงๆ ผมจึงไปถึงจุดที่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังและสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จภายใน 3 เดือน ทั้งที่ก่อนหน้านี้พอเริ่มได้ไม่กี่วันผมก็จะกลับไปใช้พฤติกรรมการกินแบบเดิมๆ มาโดยตลอด

     ในชีวิตจริงคุณต้องพร้อมจะรับผิดชอบกับผลของการตัดสินใจของตัวเอง ผมเคยพบคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อพบปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจก็จะเริ่มกลัวและโทษชีวิตต่างๆ นานา แทนที่จะยืดอกรับผลจากการตัดสินใจของตัวเอง คนกลุ่มนี้ลืมไปว่าแม้เรามีอำนาจในการเลือกแต่ไม่มีอำนาจในการกำหนดผลจากการเลือกที่จะตามมาได้ ข้อเท็จจริงก็คือ ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างก็ต้องการการตัดสินใจที่แตกต่าง

     การตัดสินใจย่อมดีกวาการลังเลไม่ยอมตัดสินใจเอาสักอย่าง ผู้ที่ประสบความสำเร็จเข้าใจดีว่าไม่มีทางที่จะทำการตัดสินใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่พวกเขารู้ดีว่าจะเติบโตได้อาจต้องผ่านการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก่อนทั้งนั้น ประธานาธิบดีแฟรงคลิน รูสเวลล์กล่าวไว้ว่า "คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยคือคนที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า" ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้จะมองการตัดสินใจและผลลัพธ์ที่ได้รับว่าเป็นบันไดอีกขั้นของการจะก้าวไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ

     หนึ่งในเรื่องเลวร้ายที่สุดคือการลังเลไม่ยอมตัดสินใจ อะไรทำให้คนไม่ยอมตัดสินใจ คำตอบคือความกลัว กล่วว่าจะตัดสินใจผิดพลาด กลัวว่าคนอื่นจะคิดอย่างนั้นอย่างนี้ กลัวความไม่แน่นอน ความหวาดกลัวคือโจรที่ร้ายกาจที่สุด และการไม่ยอมตัดสินใจมักจะมีความเสียหายมากกว่าการตัดสินใจไม่ถูกต้องเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากการเสียเวลาและที่สำคัญที่สุดคือการเสียโอกาส ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่จะช่วยให้คุณก้าวไปถึงสิ่งที่มุ่งหวัง

     ครั้งหนึ่ง ผมมีโอกาสได้พบกับชาร์ล โจนส์ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเองสองจิตสองใจว่าจะทำธุรกิจเดิมที่เพียรสร้างขึ้นมาหลายปีต่อไป หรือจะเดินทางตามความฝันที่ยังเรียกร้องอยู่ในใจผมเสมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในใจของผมก็คือ ความกลัว ประมาณว่า "จะเป็นยังไงถ้าผมล้มเหลว ผมมีคุณสมบัติที่จะทำอย่างนั้นได้หรือเปล่า" ผมปรึกษาเรื่องนี้กับโจนส์และคำแนะนำที่ผมได้รับจากเขาคือ "เราไม่ได้เกิดมาเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือผิดพลาด เราเกิดมาเพื่อตัดสินใจ แล้วทำมันให้ถูกต้องต่างหาก"

     เขาไม่ได้แนะนำว่าเราต้องตัดสินใจอย่างชาญฉลาดที่สุดเสมอไปภายใต้สภาวะหนึ่งอาจต้องการการตัดสินใจแบบหนึ่งที่เหมาะสมที่สุดนอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่าอันที่จริงไม่มีการตัดสินใจที่ผิดหรือถูกในชีวิต เพราะเราเองเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวเอง แต่โดยมากเรากลับไม่กล้าตัดสินใจเพราะความกลัวในใจ

     วิลเลี่ยม เจมส์ เคยกล่าวว่า "ในชีวิตมนุษย์ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการไม่ยอมตัดสินใจ" การตัดสินใจต้องใช้ความกล้าหายและความเชื่อมั่นในตัวเองและคนอื่นๆ ด้วยความเชื่อว่าการตัดสินใจนั้นจะให้ผลที่เราต้องการ โดยมากแล้วเราไม่อาจทราบได้จริงๆ ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างที่เราเชื่อหรือไม่ นี่ทำให้คนจำนวนมากเลือกที่จะรู้สึกว่าการตัดสินใจที่ปลอดภัยที่สุดคือการไม่ตัดสินใจอะไรเลย ซึ่งเป็นความคิดที่เลวร้ายอย่างที่สุด

     ในหนังสือ The Adventure of Leadership ที่แฮป คลอปป์ ผู้ก่อตั้ง North Face เล่าถึงการตัดสินใจที่บ้าบิ่นครั้นหนึ่งที่สุดที่เขาได้เจอ คือระหว่างที่เขาร่วมทีมกับพี่น้องวิทเทเกอร์ไปปีนภูเขาน้ำแข็งในอลาสก้า สมาชิกคนหนึ่งในทีมเกิดพลัดตกลงไปและขาหัก และอาการน่าจะต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วนขณะที่กำลังอยู่ที่ที่เวิ้งว้างบนยอดเขาแม็คคินเล่ย์ เวลาผ่านไปเร็วราวติดปีก ไม่นานพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าและอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ทีมใช้วิทยุติดต่อขอเฮลิคอปเตอร์เจ็ต แต่ปรากฏว่าไม่มีเครื่องที่จะมารับได้ ลำที่ส่งมาให้ได้คือเฮลิคอปเตอร์ใบพัดธรรมดา ซึ่งใช้งานได้ไม่ดีนักสำหรับพื้นที่ที่มีความสูงมากๆ เช่นนั้น

     ในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ใบพัดก็มาถึง คนเจ็บได้รับการนำตัวขึ้นเครื่องทันที แต่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นกลับทำให้ไม่สามารถนำเครื่องขึ้นได้ เนื่องจากอากาศที่เบาบางเกินไป ที่จุดนี้เอง ลูและจิม วิทเทเกอร์ สองพี่น้องที่เป็นผู้นำทีมได้ตัดสินใจทำบางอย่างที่น้อยคนจะกล้า แฮปเล่าว่า "ทั้งสองช่วยกันดันเฮลิคอปเตอร์ให้พ้นขอบผาแล้วตกลงไปทั้งคู่ยืนมองเฮลิคอปเตอร์ที่พยายามติดเครื่องระหว่างที่ดิ่งลงไปราวกับก้อนหินที่ตกหน้าผา พอถึงครึ่งทางใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ก็ทำงานได้เพราะอากาศหนาแน่นพอ และนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลได้สำเร็จ" จะเห็นได้ว่าเราต้องพบกับการัดสินใจเสมอๆ

     นานทีเดียวหลังจากนั้น แฮปได้เปิดใจถามจิม วิทเทเกอร์ถึงเรื่องนี้ว่า "จะเป็นไง ถ้ามันไม่ได้ผล..." คำตอบจิมคือ "บางครั้งนายก็ต้องเข้าใจนะ ว่าอุปสรรคย่อมเกิดขึ้นมาตลอดเวลาระหว่างเส้นทางแห่งความฝัน..." และเมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่างๆ สิ่งที่เราเองต้องทำก็คือฟังสัญชาตญาณของตัวเอง และเสียงเรียกร้องในใจตัวเองให้เข้าใจ

     ทุกๆ คนจะมีสัญาตญาณที่ว่านี้ ขอเพียงแค่แน่วแน่ ศรัทธาและจงทำการตัดสินใจ....ตัดสินใจเสียตั้งแต่วันนี้! และถ้าไม่แน่ใจ ขอให้ตัดสินใจในที่เราคิดว่าดีที่สุด ณ ขณะนั้น ตามความเข้าใจและทรัพยากรที่มีในมือในเวลานั้นๆ และไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร สิ่งที่เราจะได้รับก็คือความรู้ที่เพิ่มพูนขึ้น



สิ่งที่แตกต่างไปจากสัตว์คือมนุษย์เราไม่จำเป็นต้องตกเป็นเหยื่อของรหัสพันธุกรรมหรือเงื่อนไขในอดีตของตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องก้มหน้ารับชะตากรรม ไม่จำเป็นต้องให้สภาวะแวดล้อมมาเป็นปัจจัยกำหนดบทสรุปให้ตัวเอง แม้ว่าวันนี้จะมีอุปสรรค ก็ใช่ว่าเราจะก้าวข้ามไปไม่ได้ หากเราไม่มีความสุขกับวันนี้ก็ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้



--------------------------------------
โปรดติดตามต่อ
Thepoetry4u

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น