วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 3)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ถึงเดือนสิบสองข้างขึ้น นางงอฮูหยินผู้เป็นมารดาซุนกวนเป็นโรคป่วยหนักลง จึงให้หาจิวยี่กับเตียวเจียวเข้ามาแล้วสั่งว่า แต่ก่อนเราเป็นชาวเมืองต๋องง่อบิดามารดาตายเป็นกำพร้า เลี้ยงกันอยู่แต่พี่น้องสามคน แลมาได้ซุนเกี๋ยนเป็นสามีจนเกิดบุตรถึงสี่คน แลเมื่อเราจะตั้ง้องซุนเซ็กผู้บุตรหัวปีนั้นเราฝันเห็นว่าดวงพระจันทร์อยู่ในครรภ์ แลเมื่อซุนกวนจะเข้าท้องนั้นฝันเห็นว่า ดวงพระอาทิตย์เข้าอยู่ในท้อง หมอทำนายว่าบุตรท่านทั้งสองนี้นานไปจะได้เป็นใหญ่ แลซุนเซ็กก็อายุน้อยถึงแก่ความตายเสียก่อน เมื่อจะใกล้ตายก็มอบเมืองกังตั๋งไว้แก่ซุนกวนผู้น้องให้เป็นเจ้าเมือง บัดนี้ตัวเราป่วยหนัก เห็นจะไม่คงชีวิตอยู่ จะลาท่านทั้งสองแล้ว แม้ว่าเราหาบุญไม่ ท่านจงได้เอ็นดูช่วยอนุเคราะห์สั่งสอนซุนกวนสืบไปโดยความชอบ อย่าทิ้งเสียเลย แล้วนางงอฮูหยินจึงสั่งแก่ซุนกวนว่า แม้สืบไปเมื่อหน้า เจ้าจะทำการสิ่งใดจงปรึกษาหารือด้วยจิวยี่แลเตียวเจียวซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ให้รู้จักผิดแลชอบ อย่าถือทิฐิมานะ จงคารวะนับถือท่านทั้งสองนี้เป็นอาจารย์ผู้ใหญ่อย่าได้ทำการแต่อำเภอใจ อนึ่งนางงอก๊กไถ้น้องเราผ้เป็นแม่น้าของเจ้านั้น ถ้าแม่ตายแล้วก็อย่าได้ละเมินเสีย จงตั้งใจอุปถัมภ์บำรุงปฏิบัติรักษาดุจตัวของแม่ อนึ่งน้องหญิงซึ่งร่วมบิดาของเจ้านั้น จงตั้งใจเลี้ยงรักษาไว้ให้โดยปรกติด้วย แม้จะให้มีสามีเจ้าจงพิเคราะห์ดู ผู้ใดมีสติปัญญาจึงยกให้เป็นภรรยา ครั้นสั่งสอนซุนกวนแล้ว นางงอฮูหยินก็สิ้นใจ ซุนกวนจึงแต่งการศพตามธรรมเนียมแล้วให้ก่อกุฎิฝังไว้

ครั้นเข้าปีใหม่เดือนสามข้างขึ้น ซุนกวนจึงปรึกษากับจิวยี่ เตียวเจียวแลนายทหารทั้งปวงว่า จะยกกองทัพไปตีหองจอเจ้าเมืองกังแฮ หวังจะได้แก้แค้นหองจอซึ่งได้รบพุ่งกับซุนเกี๋ยนผู้บิดาเรา ในขณะนั้นปรึกษายังไม่ตกลงกัน พอลิบองซึ่งไปอยู่รักษาด่านปากน้ำเมืองลงจิ๋วมาบอกซุนกวนว่า บัดนี้กำเหลงทหารหองจอ มารอเข้าเกลี้ยกล่อมจะอยู่ทำราชการด้วยท่าน ข้าพเจ้าสืบดูรู้ว่ากำเหลงคนนี้อยู่ชายทะเลตำบลลิมกั๋ง แต่ก่อนนั้นกำเหลงคบพวกเพื่อนเป็นโจรเที่ยวตีชิงเรือลูกค้าวาณิชอยู่ในท้องทะเล แลพวกโจรทั้งนั้นเอาพรวนแลกระดึงร้อยผูกกายทุกคน แล้วกำเหลงให้เอาแพรขบวรลายทอง ซึ่งตีได้ในเรือลูกค้าเมืองเสฉวนมาทำใบเรือ แลลูกค้าวาณิชเห็นเรือสำคัญดังนั้นก็กลัวมิอาจที่จะต่อสู้ ครั้นอยู่มากำเหลงละความชั่วเสีย จึงพาพวกเพื่อไปอยู่กับเล่าเปียวเป็นหลายเดือน กำเหลงเห็นว่าเล่าเปียวเป็นคนมีความคิดน้อย จึงหนีข้ามอ่าวมาจะอยู่ด้วยท่าน พอพบหองจอกลางทาง หองจอว่ากล่าวเกลี้ยกล่อมกำเหลงไปไว้ด้วย เมื่อครั้งท่านยกทัพเรือไปรบกันกับหองจอนั้น ถ้าหองจอไม่ได้กำเหลงไว้เป็นกำลัง หองจอก็จะถึงแก่ความตาย หองจอมิได้ปูนบำเหน็จเลี้ยงดูกำเหลงให้ถึงขนาด แล้วซ้ำนินทาว่ากำเหลงเป็นโจร กำเหลงนั้นมีความน้อยใจคิดจะออกจากหองจอ
ฝ่ายโซหุยซึ่งเป็นทหารหองจอ เห็นกำเหลงเสียใจไม่สบายดังนั้นจึงเข้าไปว่าแก่หองจอว่า ขอให้ท่านเอาใจกำเหลงไว้ให้เป็นนายทหารอยู่ ณ เมืองเอียนก๋วนซึ่งขึ้นแก่เมืองกังแฮนั้น หองจอก็ยอม โซหุยจึงพาตัวกำเหลงมากินโต๊ะแล้วบอกว่า เราช่วยว่ากล่าวเสนอความชอบให้ท่าน บัดนี้หองจอให้ท่านเป็นนายทหารอยู่ ณ เมืองเอียนก๋วน แลตัวท่านก็เป็นชาติทหาร จงพิเคราะห์ดูให้ประจักษ์ใจเถิดใช่ว่าเดือนตะวันนี้จะอยู่ท่าก็หามิได้ ครั้นจะนิ่งอยู่เล่า ท่านก็จะแก่ชราลงทุกวัน ซึ่งท่านจะไปเป็นนายทหารนั้นจงเร่งคิดตั้งตัวให้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น