วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 34 (ช่วงที่ 5)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


กำเหลงเห็นดังนั้นก็รีบขับม้าตามไป พอได้ยินเสียงโห่ร้องหนุนมาข้างหลังเป็นอันมาก ครั้นเหลียวมาก็เห็นเทียเภาคุมทหารตามมา กำเหลงเป็นคนโลภจึงคิดแต่ในใจว่า แม้จะละไว้ช้าเทียเภากับทหารทั้งปวงก็จะตามจับหองจอได้ความชอบก็จะอยู่กับเขา จำเราจะรีบทำการเสียก่อน แล้วกำเหลงก็ขับม้าตามขึ้นไปใกล้จะทัน จึงเอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกหองจอตกม้าตาย แล้วตัดเอาศีรษะกับมาให้ซุนกวน ซุนกวนก็มีความยินดี จึงให้เอาศีรษะหองจอใส่ถังผนึกไว้แล้วว่า ถ้าเรากลับไปถึงเมืองจะได้เอาศีรษะหองจอนี้เซ่นศพบิดาเราให้หายความแค้นจึงตั้งกำเหลงให้เป็นนายทหาร แล้วปรึกษากับเตียวเจียวว่า เราจะคิดทำการต่อไปจำจะต้องแบ่งทหารให้อยู่รักษาเมืองกังแฮบ้างหรือประการใด

เตียวเจียวจึงว่า อันเมืองกังแฮนั้นเป็นทางเปลี่ยวกันดารนัก จะแบ่งทหารให้อยู่รักษานั้นไม่ได้ ประการหนึ่งซึ่งท่านจะยกไปตีเมืองเกงจิ๋วนั้น เห็นทหารจะได้ความลำบากนัก เพราะเหตุว่าเล่าเปียวรู้ตัวก็จะตระเตรียมป้องกันรักษาเมืองไว้เป็นมั่นคง ขอให้ท่านยกกองทัพกลับไปเมืองกังตั๋งก่อน บำรุงทหารให้มีกำลังฝ่ายเล่าเปียวรู้ว่าหองจอตายแล้วก็จะมีใจโกรธ เห็นจะยกกองทัพมาตีเมืองกังตั๋งหวังจะแก้แค้นซึ่งเสียหองจอนั้น เราจึงจะยกออกตั้งรบพุ่งนอกเมือง แล้วคิดอ่านเป็นกลอุบายเห็นจะจับตัวเล่าเปียวได้ ซุนกวนเห็นชอบด้วย จึงเลิกกองทัพกลับมาเมืองกังตั๋ง แล้วสั่งทหารจะให้ฆ่าโซหุยเสีย ตัดเอาศีรษะมากับศีรษะหองจอ จะแต่งการเซ่นศพบิดาเรา กำเหลงแจ้งดังนั้นจึงเข้าไปคำนับแล้วอ้อนวอนซุนกวนว่า เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับหองจอนั้น ข้าพเจ้าเป็นคนเสียน้ำใจ โซหุยได้ช่วยว่ากล่าวให้ข้าพเจ้าออกมาเป็นนายทหารอยู่เมืองเอียนก๋วน ข้าพเจ้าจึงได้ทำราชการอยู่ด้วยท่าน ซึ่งท่านจะให้ฆ่าโซหุยเสียนั้น ข้าพเจ้าขอชีวิตไว้ทำราชการอยู่กับท่านด้วยกัน
ซุนกวนจึงตอบว่า ซึ่งโซหุยมีคุณแก่ท่านเราจะยกโทษให้ แต่เกรงอยู่ว่าโซหุยจะไม่สมัครอยู่ด้วยเรา จะคิดอ่านหนีไป กำเหลงจึงว่า ท่านไม่ฆ่าชีวิตเสียนั้นคุณหาที่สุดมิได้ โซหุยก็จะมีความยินดีตั้งใจทำราชการอยู่ด้วยท่านโดยสุจริต แม้โซหุยคิดเอาใจออกหากหนีท่านไปอยู่แห่งใดตำบลใด ข้าพเจ้าจะขอเอาศีรษะข้าพเจ้านี้ประกันให้ท่านแทน ซุนกวนจึงยกโทษโซหุยให้กำเหลง แล้วเอาศีรษะหองจอกับธูปเทียนไปจุดเซ่นศพซุนเกี๋ยนผู้เป็นบิดา แล้วให้แต่งโต๊ะเลี้ยงขุนนางแลทหารทั้งปวง
ขณะเมื่อทหารทั้งปวงเสพย์สุราอยู่นั้น เล่งทองคิดแค้นกำเหลงซึ่งฆ่าบิดาเสีย ร้องไห้แล้วจับกระบี่วิ่งเข้าไปในที่ประชุมทหารทั้งปวง หวังจะทำร้ายกำเหลง กำเหลงเสพย์สุราอยู่เหลือบเห็นเล่งทองเงื้อกระบี่ขึ้นจะฆ่าก็ตกใจยกเก้าอี้ขึ้นรับไว้ ซุนกวนเห็นดังนั้นจึงว่าแก่เล่งทองว่า ซึ่งท่านจะคิดแค้นพยาบาทกำเหลงนั้นหาควรไม่ เมื่อกำเหลงฆ่าบิดาท่านเสียนั้น เพราะกำเหลงเป็นทหารกินข้าวแดงของหองจอ จำจะอาสาให้ถึงขนาด บัดนี้กำเหลงก็ได้มาอยู่กับเราแล้ว ท่านจงเห็นแก่เรา อย่าคิดพยาบาทกำเหลงสืบไปเลย
เล่งทองได้ฟังซุนกวนว่าดังนั้น คุกเข่าลงคำนับแล้วร้องไห้ พิศดูกำเหลงคิดแค้นมิได้ขาด แต่หากเกรงอาญาซุนกวนจึงมิได้ว่าประการใด ซุนกวนเห็นเล่งทองยังมีใจพยาบาทกำเหลงอยู่ จึงคิดเพทุบายให้กำเหลงคุมทหารห้าพันเรือรบร้อยลำ ไปตั้งเป็นกองตระเวนอยู่ปากน้ำเมืองกังแฮ แล้วตั้งให้เล่งทองเป็นนายทหารผู้ใหญ่ หวังจะให้คลายความพยาบาทกำเหลง แล้วซุนกวนให้จัดแจงเรือบรบแลซ่องสุมทหารให้พร้อม จึงให้จิวยี่คุมทหารยกกองทัพเรือไปตั้งรักษาอยู่ปากน้ำเมืองเองฮอ
ขณะเมื่อจิวยี่มาตั้งอยู่นั้น ก็ฝึกสอนทหารอยู่มิได้ขาด หวังจะให้ชำนาญแลซุนกวนนั้นก็คุมทหารไปตั้งอยู่ตำบลชีสองนอกเมืองกังตั๋ง หวังจะได้ต้านทานข้าศึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น