วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 29 (ช่วงที่ 6)

by thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

ฝ่ายสิมโพยอยู่บนเชิงเทิน เห็นโจโฉกลับมาทำการขุดคลองดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า อันโจโฉทำการครั้งนี้เราหากลัวไม่ เราเกรงอยู่แต่จะขุดคลองให้ลึกลงไป จึงจะไขน้ำเข้ามาให้ท่วมเมืองเราได้ สิมโพยเห็นว่าโจโฉจะทำการไม่ตลอด ก็มิได้คิดอ่านป้องกันประการใด
ฝ่ายโจโฉมิได้เห็นชาวเมืองกิจิ๋วคิดทำการป้องกัน ก็เห็นว่าได้ทีอยู่แล้ว ครั้นเวลาค่ำจึงเกณฑ์แต่บรรดาทหารเลว ให้บรรจบกันขุดคลองกว้างสี่วาลึกสี่วา ให้แล้วแต่ในเวลากลางคืนวันนี้ ทหารทั้งปวงก็ช่วยกันระดมทำการขุดคลองกว้างแลลึกได้สี่วา แล้วเปิดทำนบในเวลากางคืน น้ำก็ล้นไหลเข้าไปถึงคูเมืองเปี่ยมแล้วไหลเข้าไปตามคลองเมืองเป็นหลายตำบล จนท่วมเมืองลึกประมาณเจ็ดศอกแปดศอก ทหารแลชาวเมืองทั้งปวงขัดสนด้วยข้าวปลาอาหาร แลตายด้วยน้ำบ้างหนีขึ้นอยู่บนเชิงเทินบ้าง
ฝ่ายซินผีจึงเอาตราสำหรับที่กับหมวก แลเครื่องแต่งตัวของอ้วนซงซึ่งได้ไว้ในค่ายนั้น ใส่ปลายไม้ขึ้นแล้วแกว่งร้องประกาศแก่ชาวเมืองทั้ปวงซึ่งอยู่บนเชิงเทินว่า บัดนี้มหาอุปราชฆ่าอ้วนซงเสียแล้ว ท่านทั้งปวงจะนิ่งอยู่ไยให้ถึงแก่ความตาย จงชวนกันกลับเข้าด้วยมหาอุปราชจึงจะรอดจากความตาย สิมโพยได้ฟังซินผีร้องประกาศดังนั้นก็โกรธ จึงให้จับเอาบุตรภรรยาแลพรรคพวกพี่น้องซินผีประมาณแปดสิบคนมาฆ่าเสีย แล้วเอาศพนั้นโยนออกไปให้ซินผี ซินผีเห็นดังนั้นก็ตกใจร้องไห้รักบุตรภรรยาแลญาติพี่น้องอยู่
ฝ่ายสิมเอ๋งซึ่งเป็นหลานสิมโพยนั้น เป็นเพื่อนรักกันกับซินผี แลสิมเอ๋งเห็นสิมโพยทำดังนั้นก็มีความแค้น เพราะรักซินผีเป็นอันมาก จึงเขียนหนังสือเป็นใจความว่า ข้าพเจ้าสิมเอ๋งผู้หลานสิมโพย เป็นเพื่อนรักกับซินผี มีความแค้นสิมโพยผู้อา ด้วยฆ่าบุตรภรรยาพี่น้องซินผีเสีย เวลากลางคืนวันนี้ให้มหาอุปราชยกเข้ามาเถิด ข้าพเจ้าจะเปิดประตูเมืองรับ แล้วเอาหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์ยิงออกไป
ฝ่ายซินผีได้หนังสือแล้วอ่านดู แจ้งในเนื้อความแล้วก็ดีใจ จึงเอาหนังสือมาให้แก่โจโฉ โจโฉแจ้งในหนังสือแล้ว จึงให้เอาไปประกาศแก่ทหารทั้งปวงว่าเราจะยกเข้าเมืองในเวลาสามยามวันนี้ อย่าให้ผู้ใดทำร้ายแก่แซ่อ้วน แลผู้ซึ่งเข้าเกลี้ยกล่อมเป็นอันขาดทีเดียว ถ้าผู้ใดมิฟังเราจะให้ลงโทษถึงสิ้นชีวิต
ครั้นถึงเวลาจะใกล้รุ่ง สิมเอ๋งก็เปิดประตูเมืองไว้ตามสัญญา ซินผีเห็นดังนั้นก็คุมทหารเข้าไปในเมืองกิจิ๋ว สิมโพยรักษาหน้าที่อยู่ด้านตะวันออกเห็นทหารโจโฉเข้าเมืองได้ทางด้านใต้ ก็คุมทหารมาประมาณสามสิบจะมารบกับทหารโจโฉ พอพบซิหลง สิมโพยก็ขับม้าเข้ารบกับซิหลงเป็นสามารถ ซิงหลงจับสิมโพยได้ก็มัดจะเอาไปให้โจโฉ ซินผีรู้ดังนั้นก็ควบม้าตามไปด้วยความแค้นจึงเอาแส้ม้าตีสิมโพยแล้วกัดฟันด่าว่าอ้ายศัตรูมึงถึงที่ตายวันนี้แล้ว
สิมโพยได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงตอบว่า มึงเอาใจออกหากไปเข้าด้วยโจโฉซึ่งเป็นศัตรู กูมีความแค้นจะใคร่กินเนื้อมึงเสียอีก ซิหลงก็รีบเอาตัวสิมโพยออกไปให้โจโฉ ณ ค่าย โจโฉจึงถามสิมโพยว่า ผู้ใดเปิดประตูเมืองรับทหารเราตัวรู้หรือไม่ สิมโพยจึงว่าข้าพเจ้าไม่แจ้ง โจโฉจึงบอกว่า สิมเอ๋งผู้หลานของตัวเปิดประตูเมืองรับทหารพวกเรา สิมโพยรู้ดังนั้นก็โกรธจึงว่า หากอ้ายศัตรูน้อยเอาใจไปแผ่เผื่อข้าศึก หาไม่ก็จะไม่เสียเมือง
โจโฉจึงถามสิมโพยว่า เมื่อวันตัวแต่งกลอุบายให้ชาวเมืองออกมาเข้าเกลี้ยกล่อมเรานั้น เราขี่ม้าเข้าไปใกล้เชิงกำแพง ทหารบนหน้าที่เอาเกาทัณฑ์ระดมยิงเราออกมานั้น ตัวได้เกาทัณฑ์ที่ไหนมาเป็นอันมาก สิมโพยจึงว่า ท่านเป็นศัตรูของนายเรา เรายังมีความแค้นอยู่ แลเสียดายว่าเกาทัณฑ์นั้นน้อยนักถ้ามีอีกจะให้ทหารระดมยิงท่านให้ถึงแก่ความตาย โจโฉจึงว่า ซึ่งตัวมีความสัตย์ต่อนายของตัวนั้นเราชอบใจนัก บัดนี้อ้วนเสี้ยวนายของตัวก็ตายแล้ว ตัวจะยอมอยู่ทำราชการด้วยเราหรือ เราจะเลี้ยวไว้ ซินผีได้ฟังดังนั้นจึงว่าแก่โจโฉว่าบุตรภรรยาแลพรรคพวกของข้าพเจ้าถึงแปดสิบเศษสิมโพยฆ่าเสียสิ้น ท่านจงฆ่ามันเสียให้ตายตามกันไป ข้าพเจ้าจึงจะหายความแค้น สิมโพยจึงตอบว่า มึงอย่าพักยุยงเลยกูหารักชีวิตไม่ อันตัวกูเกิดมาเป็นคนกตัญญู คิดตั้งใจว่าได้เป็นบ่าวแล้วก็จะทำนุบำรุงแซ่อ้วนโดยสุจริต แม้มาตรว่าตัวกูตายไปก็จะขอเป็นบ่าวแซ่อ้วน จะได้คิดทุจริตเหมือนมึงนั้นหามิได้ มึงเร่งยุให้โจโฉฆ่ากูเสียเถิด โจโฉได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงสั่งทหารให้เอาตัวสิมโพยไปฆ่าเสีย ทหารทั้งปวงก็คุมเอาตัวสิมโพยออกไป ขณะเมื่อจะลงดาบนั้น สิมโพยจึงว่าแก่ทหารซึ่งจะฆ่านั้นว่า นายเราอยู่ฝ่ายทิศเหนือ ท่านจงงดดาบไว้ก่อน เราจะขอบ่ายหน้าไปสู่ทิศนายเรา แล้วจงลงดาบเถิด ทหารนั้นก็งดไว้ให้สิมโพยบ่ายหน้าไปข้างทิศเหนือแล้วก็ฆ่าเสีย
โจโฉรู้ดังนั้นจึงแกล้งยกย่องสิมโพย หวังจะให้ทหารทั้งปวงมีใจจงรักภักดีต่อตัว จึงว่าสิมโพยนี้มีความสัตย์ซื่อต่อนายนัก ผู้ใดจะทำราชการไปภายหน้าจงดูเยี่ยงอย่างสิมโพยเถิด แล้วก็ให้แต่งการศพเอาไปฝังเสีย พอทหารจับตัวตันหลิมเข้ามา โจโฉจึงถามตันหลิมว่า ซึ่งอ้วนเสี้ยวให้แต่งหนังสือประกาศไปถึงหัวเมืองทั้งปวงว่า เราทำการหยาบช้านั้นก็ชอบอยู่ เพราะอ้วนเสี้ยวกับเราเป็นศัตรูกัน แต่เหตุใดท่านจึงล่วงว่าขึ้นไปถึงปู่แลบิดาเราว่าคิดร้ายต่อแผ่นดินนั้นด้วยเหตุใด ตันหลิมจึงตอบว่า ซึ่งข้าเจ้าแต่งหนังสือนั้น อุปมาเหมือนผู้ขึ้นเกาทัณฑ์พาดลูดไว้ ครั้นจะยิงไปก็เหนี่ยวด้วยกำลังให้เต็มที่ เพราะหมายใจว่าจะให้ถูกคนแลสัตย์ถึงแก่ความตาย ที่ปรึกษาแลทหารทั้งปวงได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่าแก่โจโฉว่า ซึ่งตันหลิมว่ากล่าวทั้งนี้เป็นข้อหยาบช้า ท่านจงให้เอาตัวไปฆ่าเสีย โจโฉจึงตอบว่า อันตันหลิมว่ากล่าวทั้งนี้เป็นความจริง ซึ่งท่านจะให้ฆ่าเสียนั้นไม่ควร เราจะเลี้ยงไว้สำหรับจะได้แต่งหนังสือแลจดหมายเหตุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น