วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 30 (ช่วงที่ 6)

by thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

ฝ่ายโกกันหนีออกจากแดนเมืองกิจิ๋ว มาถึงเมืองตันอูจึงเข้าไปหาโจเอียดอ้องผู้เป็นเจ้าเมือง แล้วเล่าเนื้อความว่า บัดนี้โจโฉมีกำลังกล้าแข็ง ทั้งทหารก็มีเป็นอันมาก ยกทัพมาทำอันตรายหัวเมืองฝ่ายเหนือให้ได้ความเดือดร้อนข้าพเจ้าเห็นโจโฉมีน้ำใจกำเริบ จะล่วงมาถึงแดนเมืองนี้ ขอให้ท่านยกกองทัพไปตีเอาหัวเมืองซึ่งโจโฉรบได้นั้น อันตรายจึงจะไม่ถึงเมืองท่าน
โจเอียนอ้องได้ฟังดังนั้นจึงว่า โจโฉไม่มีความผิดกับเรา ซึ่งจะยกล่วงมาตีเอาเมืองเรานั้นไม่เห็นด้วย หากตัวมีใจพยาบาทโจโฉ จึงแกล้งยุยงหวังจะให้เรามีศัตรูสืบต่อไป แล้วก็ให้ทหารขับโกกันออกไปเสียนอกเมือง ฝ่ายโกกันก็คิดแต่ในใจว่า เราจะไปอาศัยเล่าเปียวเจ้าเมืองเกงจิ๋วดีกว่า แล้วก็พาทหารกลับเข้าแดนหัวเมืองฝ่ายเหนือ รีบเล็ดลอดไปถึงกลางทาง พอเวลากลางคืนหยุดพักอยู่ อ๋องต๋ำซึ่งเป็นทหารนั้นลอบฆ่าโกกันเสีย แล้วตัดเอาศีรษะไปให้โจโฉ ณ แดนด่านโฮกวน โจโฉมีความยินดี จึงตั้งให้อ๋องต่ำเป็นทหาร แล้วโจโฉยกกองทัพเข้าตีเอาเมืองเป๊งจิ๋วได้
ในขณะนั้นโจโฉปราบปรามไพร่บ้านพลเมืองให้อยู่เป็นปรกติแล้ว จึงปรึกษากับทหารทั้งปวงว่า เราจะยกกองทัพไปตีเอาหัวเมืองฝ่ายตะวันตกซึ่งขึ้นแก่เมืองกิจิ๋ว ทั้งจะได้ตัวอ้วนฮี อ้วนซงด้วย จึงจะสิ้นเสี้ยนหนาม โจหองกับทหารรองจึงห้ามว่า อ้วนฮี อ้วนซงนั้นเห็นจะไม่เข้าอาศัยอยู่ในเมืองได้ จะพากันซุ่มซ่อนอยู่ในป่า ถึงมาตรว่าจะมีทหารอยู่ด้วยก็น้อย อันหัวเมืองตะวันตกนั้นเป็นแต่หัวเมืองเล็กน้อยแล้วทางก็ไกล ซึ่งจะยกล่วงไปตีนั้นเห็นไม่ควร เกลือกเล่าเปียวกับเล่าปี่รู้ก็จะยกไปตีเอาเมืองฮูโต๋ เห็นท่านจะขึ้นไปช่วยไม่ทัน ขอให้ท่านยกกองทัพกลับไปรักษาเมืองฮูโต๋ไว้ดีกว่า
กุยแกจึงว่า ซึ่งโจหองว่านี้ไม่ชอบ อันหัวเมืองฝ่ายตะวันตก เมื่ออ้วนเสี้ยวอยู่นั้นก็ทำนุบำรุงเป็นปรกติอยู่ การศึกก็ไม่มีถึง เห็นจะมีใจประมาทอยู่ บัดนี้อ้วนฮี อ้วนซงก็ไปอาศัยอยู่ด้วย จำเราจะยกกองทัพไปปราบปรามให้สิ้นทีเดียว อันเล่าเปียวนั้นเป็นแต่คนช่างพูด จะคิดการสิ่งใดก็ไม่ตลอดบัดนี้ได้เล่าปี่มาไว้ ครั้นจะทำนุบำรุงให้ถึงขนาด เล่าเปียวก็ไม่ไว้ใจเล่าปี่ อันเล่าปี่ก็เห็นจะไม่เป็นใจสุจริตต่อเล่าเปียว การทั้งปวงซึ่งคิดกันนั้นก็แก่งแย่งกันอยู่ ไม่ควรที่จะเกรงเล่าเปียวกับเล่าปี่ ขอให้ท่านยกไปปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันตกเสียให้ราบก่อนจึงจะควร
โจโฉเห็นชอบด้วย ก็จัดแจงเกวียนเสบียงได้สามพันเล่ม แล้วยกกองทัพไปข้ามทุ่งป่าพงแลเขาเป็นหลายตำบล ทางนั้นกันดารนักหาต้นไม้ใหญ่มิได้ ลมพัดหอบเอาทราบฟุ้งตลบไปทั้งกองทัพ โจโฉเห็นดังนั้นก็คิดว่า ยกมานี้ทหารเราได้ความลำบากนัก จะใคร่ยกกองทัพกลับไป ครั้นจะปรึกษากุยแกเล่า กุยแกก็ป่วยนอนมาบนเกวียน โจโฉมาเห็นกุยแกนั้นป่วยหนัก โจโฉร้องไห้รักแล้วว่า ซึ่งท่านป่วยนี้เพราะเรายกกองทัพพาท่านมา เราไม่มีความสบายจะใคร่ยกกลับไปเมือง กุยแกจึงตอบว่า อันคุณของท่านมีอยู่แก่ข้าพเจ้าเป็นอันมาก อย่าวิตกถึงข้าพเจ้าเลย ถึงมาตรว่าข้าพเจ้าจะตายก็จะเอาชีวิตแทนคุณท่าน อันคำโบราณกล่าวไว้ว่า การสิ่งใดเห็นได้การแล้ว ก็ให้เร่งคิดอ่านทำการไปกว่าจะสำเร็จ ซึ่งจะยกกองทัพไปครั้งนี้ ข้าพเจ้าเห็นจะช้าทหารก็จะลำบากนัก แล้วชาวเมืองรู้ก็จะตระเตรียมไว้รบพุ่ง ขอให้ตั้งกองทัพไว้ที่นี่ ให้จัดแจงทหารซึ่งกล้าแข็งเอาเสบียงใส่ไถ้คาดเอวถืออาวุธสำหรับมือ แล้วจับชาวบ้านให้นำทางไปเที่ยวโจมตีเอา อย่าให้ทันชาวเมืองรู้ตัวก็จะได้โดยง่าย
โจโฉเห็นชอบด้วย จึงให้หยุดทัพตั้งมั่นอยู่แดนเมืองเอ๊กจิ๋ว แล้วให้หานายบ้านคนหนึ่งออกมาจะให้นำทางไป นายบ้านจึงว่า ข้าพเจ้าไม่รู้แห่งทาง แต่มีทหารกองตระเวนของอ้วนเสี้ยวคนหนึ่งชื่อเตียนติ๋วหนีมาอยู่เมืองนี้ เจนทางแลตำบลบ้านสิ้น โจโฉจึงให้หาตัวเตียนติ๋วมาถามระยะทางจะให้นำไป เตียนติ๋วจึงบอกว่าซึ่งจะให้ยกไปหัวเมืองตะวันตกนั้น ข้าพเจ้าจะนำไปได้อยู่ แต่ตำบลแดนเมืองหลิวเซียนั้นทางกันดารนัก ถ้าจะเดินเท้าก็ต้องลุยน้ำแลเลน แม้จะไปเรือน้ำก็ตื้น ขอให้กลับไปเข้าทางตำบลอีหลง ต่อไปถึงกึ่งทางนั้นลำบากนักจะต้องไต่ตามริมเนินเขาช่องแคบไป ครั้นพ้นที่นั้นแล้วออกทุ่งใหญ่ จึงวกเข้ามาทางเมืองหลิวเซีย เป๊กตุ้นเจ้าเมืองนั้นไม่ทันรู้ตัว เห็นท่ายจะได้เมืองนั้นโดยง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น