วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 2)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


อยู่มาวันหนึ่งเทียหยกจึงไปเยียนมารดาชีซีแล้วบอกว่า บุตรท่านกับข้าพเจ้าก็เป็นมิตรรักใคร่กันมาแต่ก่อน ท่านเป็นมารดาของชีซีก็เหมือนเป็นมารดาของข้าพเจ้า มารดาชีซีได้ฟังดังนั้นก็สำคัญว่าจริงมีความยินดีนัก ตั้งแต่วันนั้นมาเทียหยกก็ได้เอาของไปให้เนืองๆ แล้วเขียนหนังสือไปคำนับทุกครั้ง มารดาชีซีก็เขียนหนังสือรับคำนับตามประเพณีตอบไปทุกที ครั้นเทียหยกได้หนังสือดังนั้นก็หัดเขียนให้ชำนาญเหมือนลายมือมารดาชีซีแล้ว จึงเขียนหนังสือฉบับหนึ่งเป็นใจความว่า เราผู้เป็นมารดาบอกมาถึงชีซีผู้บุตรให้รู้ ด้วยชีของผู้น้องเจ้านั้นถึงแก่ความตายแล้ว ตัวแม่เป็นคนชราหาผู้ใดจะเลี้ยงรักษาพยาบาลมิได้ โจโฉจับเอาแม่มาทำโทษแล้วจะให้เอาไปฆ่าเสีย เพราะเหตุเจ้ามาอยู่ด้วยเล่าปี่คิดจะทำร้ายโจโฉ หากเทียหยกเมตตาแม่เห็นว่าเป็นคนชรา ช่วยว่ากล่าวให้งดไว้จึงมิตาย แม้ว่าเจ้ามีความกตัญญูเอ็นดูแม่มาหาโจโฉแล้ว ชีวิตแม่ก็จะไม่มีอันตราย แม้เจ้าไม่อาลัยถึงแม่ มิได้มาตามหนังสือนี้เมื่อใด แม่ก็จะตายเพราะอาญาโจโฉเป็นมั่นคง เมื่อเทียหยกแต่งหนังสือแล้ว ก็ใช้ให้คนสนิทถือไปให้ชีซี ณ เมืองซินเอี๋ย บอกว่ามารดาจ้างถือหนังสือมาถึงท่าน

ชีซีก็รับเอาหนังออกคลี่อ่าน พิเคราะห์ดูเป็นลายมือของมารดาจำได้ถนัดดังนั้นก็ร้องไห้ จึงพาเอาหนังสือเข้าไปหาเล่าปี่แล้วบอกว่า ทุกวันนี้ข้าพเจ้าตั้งใจภักดีมาทำราชการอยู่ด้วยท่านก็นานแล้ว ข้าพเจ้ายังมิได้เล่าเนื้อความแต่หลังแก่ท่าน แล้วชีซีก็เล่าเนื้อความแต่หลังให้ฟังทุกประการ ข้าพเจ้าได้มาทำราชการด้วยท่าน ท่านก็มีความกรุณาแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่าจะสนองคุณท่านให้ถึงขนาด บัดนี้มีกรรมมาถึง โจโฉรู้ว่าข้าพเจ้ามาอยู่ด้วยท่านก็โกรธ จับเอามารดาข้าพเจ้าไปทำโทษแล้วจะให้ฆ่าเสีย มารดาข้าพเจ้าจ้างคนถือหนังสือมาถึงข้าพเจ้าให้ไปหาโจโฉ ถ้าข้าพเจ้ามิไปบัดนี้ น่าที่โจโฉก็จะฆ่ามารดาเสีย โทษก็จะมีแก่ตัวข้าพเจ้าไปภายหน้าเป็นอันาก มารดาเลี้ยงมายังมิได้แทนคุณ แล้วมิหนำซ้ำจะทำโทษให้เล่ามิควรนัก ขอท่านได้กรุณาข้าพเจ้าให้ไปหาโจโฉเถิดเหมือนได้แทนคุณมารดาอย่าให้ตายเสีย ข้าพเจ้าไปแล้วจึงจะคิดแก้ไขกลับมาสนองคุณท่านให้จงได้
เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็สงสารร้องไห้รักชีซีแล้วจึงว่า อันธรรมดาแม่ลูกกันนี้ก็เหมือนชีวิตเดียวกัน เมื่อมีเหตุนี้ก็เป็นประเพณีบุตรจะสงเคราะห์แก่มารดาใครห่อนจะอาจทิ้งมารดาเสียได้ ซึ่งท่านจะไปหาโจโฉก็ตามเถิด เมื่อมารดาท่านพ้นภัยแล้ว จึงคิดอ่านกลับมาช่วยสั่งสอนเราสืบไป แต่ทว่าบัดนี้ตัวท่านกับเราจะจากกันไปแล้ว จงยับยั้งอยู่สักราตรีหนึ่งก่อน เวลาพรุ่งนี้เราจะแต่งโต๊ะเลี้ยงท่านให้สบายใจแล้วจึงค่อยไป ชีซีรับคำแล้วก็ลามาที่อยู่ ภายหลังซุนเขียนจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า อันชีซีเป็นคนมีสติปัญญามากนัก แล้วก็ได้มาอยู่ด้วยในเมืองซินเอี๋ยรู้จักตื้นลึกหนักเบาทุกประการ แม้ท่านจะปล่อยให้ไปอยู่ด้วยโจโฉบัดนี้ โจโฉก็จะมีความยินดี เลี้ยงดูทำนุบำรุงให้ถึงขนาด อันตื้นลึกหนักเบาสิ่งใดนั้นชีซีก็จะแจ้งแก่โจโฉสิ้น นานไปภายหน้าก็จะมีภัยมาถึงเราเป็นมั่นคง ขอให้ท่านเอาตัวชีซีไว้อย่าปล่อยไป ฝ่ายโจโฉเห็นว่าชีซีไม่ไปแล้วก็จะฆ่ามารดาเสีย ชีซีก็จะมีความพยาบาท ก็จะช่วยทำการกำจัดโจโฉโดยการสุจริต เล่าปี่จึงตอบว่า ท่านว่าทั้งนี้เราไม่เห็นด้วย อันจะให้พรากแม่กับลูกไว้มิให้ไปหากัน ให้มารดาจำตายเพราะลูกนั้น ก็จะเป็นบาปกรรมไปภายหน้า อนึ่งเราก็ได้ลั่นวาจาอนุญาตแก่ชีซีแล้วถึงมาตรว่าตัวเราจะตายก็จะรักษาความสัตย์ไว้ เรามิปรารถนาถ้อยคำของท่านอันมิได้เป็นสัตย์ ทหารทั้งปวงได้ฟังเล่าปี่ว่าดังนั้นก็ชื่นชมยินดีชวนกันสรรเสริญว่า เล่าปี่มีความสัตย์ซื่อมั่นคงนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น