วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 1)

by thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายโจหยินกับลิเตียนไปถึงเมืองฮูโต๋ จึงเข้าไปหาโจโฉแจ้งเนื้อความทั้งปวง แล้วก็ร้องไห้วิงวอนขอโทษ โจโฉจึงว่าท่านอย่าวิตกเลย อันธรรมดาว่าสงครามจะหมายชนะฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้ ย่อมแพ้บ้างชนะบ้าง แต่เราคิดสงสัยว่าเล่าปี่ทำการได้ถึงเพียงนี้เห็นเกินนัก ชะรอยจะมีผู้ใดคิดอ่านให้ โจหยินจึงว่าข้าพเจ้าแจ้งเนื้อความว่า ที่ปรึกษาคิดการทั้งปวงให้เล่าปี่นั้นชื่อว่าตันฮก โจโฉจึงถามว่าตันฮกคนนี้จะเป็นผู้ใด เหตุไฉนแต่ก่อนชื่อเสียงจึงไม่ปรากฎ เทียหยกได้ยินก็หัวเราะแล้วจึงว่า ตันฮกคนนี้เดิมชื่อชีซีอยู่เมืองเองจิ๋ว เมื่อหนุ่มนั้นเป็นคนมีเพื่อนมากเที่ยวเรียนวิชา ครั้นอยู่มาไปฆ่าเขาตายแล้วแกล้งทำอาการเป็นบ้า ครั้นเขาจับได้เอาตัวไปโบยตีไต่ถาม ก็มิได้บอกชื่อเสียงแลเหตุผลทั้งปวงโดยจริงแกล้งนิ่งเสีย ผู้พิจารณาจึงเอาตัวมัดใส่เกวียนไปเที่ยวตระเวนตีฆ้องร้องป่าวว่าผู้ใดยังรู้จักชื่อคนนี้บ้าง บรรดาชาวบ้านร้านตลาดทั้งปวงซึ่งรู้จักกันนั้น ก็กลัวชีซีจะซัดเอามิอาจที่จะบอกได้ ครั้นตระเวนไปปะพวกเพื่อนชีซีเข้าชิงเอาตัวไปได้ ชีซีจึงหนีไปเรียนวิชาอยู่กับสุมาเต๊กโช เปลี่ยนชื่อว่าตันฮกตราบเท่าทุกวันนี้

โจโฉแจ้งดังนั้นจึงถามว่า ชีซีมีปัญญาความคิดเสมอกับท่านหรือเทียหยกจึงบอกว่าอันปัญญาความคิดชีซีนี้ดีกว่าข้าพเจ้ามากนัก โจโฉจึงว่า เล่าปี่ได้ผู้มีปัญญาความคิดไปไว้ เห็นจะมีใจกำเริบใหญ่หลวง ทำไฉนเราจึงจะได้ตัวชีซีมาไว้ อย่าให้เล่าปี่กำเริบไปได้ เทียหยกจึงว่า ถ้าท่านมีความปรารถนาจะใคร่ได้ชีซีมาไว้นั้นจะยากอะไรมี ถึงมาตรว่าชีซีไปอยู่กับเล่าปี่แล้วก็ดี ข้าพเจ้าจะคิดอ่านแก้ไข เอาตัวมาให้ท่านจงได้ โจโฉจึงถามว่า ท่านจะคิดอ่านประการใด เทียหยกจึงบอกว่า ซึ่งข้าพเจ้าจะเอาชีซีมานั้น เพราะข้าพเจ้าแจ้งเค้ามูลอยู่ว่า ตัวชีซีนี้เป็นคนกตัญญู แลบิดาตายแล้ว ยังแต่มารดาเป็นคนชรา ขณะเมื่อชีซีจะจากมานั้น ชีของผู้น้องปฏิบัติมารดาอยู่ บัดนี้ชีของนั้นก็ถึงแก่ความตายแล้ว มารดาเป็นคนอนาถาหาผู้ปฏิบัติมิได้ ขอท่านให้ไปรับเอามารดาชีซีมาเลี้ยงไว้ แล้วว่ากล่าวเอาเนื้อเอาใจให้มีหนังสือไปถึงชีซีผู้บุตร เห็นว่าชีซีมีกตัญญูต่อมารดาอยู่จะทิ้งเสียมิได้ก็จะมา
โจโฉได้ฟังดังนั้นก็เห็นด้วย จึงแต่งคนให้รีบไปรับมารดาชีซีมาเลี้ยงเป็นปรกติ แล้วโจโฉจึงปลอบโยนว่า บัดนี้เราแจ้งว่าบุตรของท่านคนหนึ่งดีมีสติปัญญาไปอยู่ด้วยเล่าปี่อันเป็นขบถต่อแผ่นดินหาควรไม่ ประดุจหนึ่งเอาแก้วไปทิ้งไว้ที่ตม สำหรับแต่จะอับไป ทุกวันนี้เราคิดเสียดายมิรู้แล้ว อนึ่งก็มีใจเอ็นดูแก่ท่านนัก จึงให้ไปรับมาหวังจะให้มีหนังสือไปถึงชีซีบุตรท่าน ให้มาอยู่ทำราชการด้วยเราในเมืองหลวง จะช่วยพิดทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ให้เป็นขุนางสืบไป แล้วโจโฉจึงให้เอาศิลาฝนหมึกกับกระดาษแลพู่กันมาส่งให้เขียนหนังสือ มารดาชีซีจึงแกล้งถามโจโฉว่า ซึ่งชื่อว่าเล่าปี่นั้นเป็นบุตรผู้ใดท่านยังรู้จักหรือ
โจโฉจึงว่า เล่าปี่นั้นเป็นชาวเมืองตุ้นก้วน เป็นคนอนาถาหาตระกูลมิได้ โกหกเจรจาล่อลวงให้คนทั้งปวงเชื่อว่าเป็นเชื้อสายพระเจ้าเหี้ยนเต้ แกล้งทำอาการให้เห็นว่าอารีรอบคอบ ปรากฏแต่ภายนอก น้ำใจมิได้ซื่อตรงต่อผู้ใด มารดาชีซีได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงตวาดเอาโจโฉว่า มึงเป็นคนชั่วหาความอายมิได้แสร้งใส่โทษเล่าปี่ว่าเป็นคนมิดี อันเล่าปี่นี้กูรู้มาแต่เดิมว่าเป็นเชื้อสายพระเจ้าเหี้ยนเต้ แล้วมีน้ำใจสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน โอบอ้อมอารีแก่อาณาประชาราษฎรแต่เด็กอมมือก็รู้ว่าเล่าปี่เป็นคนดี บัดนี้ลูกกูไปอยู่ด้วยเล่าปี่ ก็เป็นที่สำนักอันใหญ่หลวงอยู่แล้ว แลตัวมึงซึ่งว่ามีความสัตย์ซื่อจะช่วยทำนุบำรุงแผ่นดินพระเจ้าเหี้ยนเต้นั้น ก็เห็นว่ามึงเป็นศัตรูแผ่นดินอีก ซึ่งให้ลูกกูปราศจากเล่าปี่มาอยู่ทำราชการด้วยตัวมึงนั้น ก็เหมือนออกจากที่สว่างมาเข้าที่มือหาควรไม่ ว่าแล้วก็ฉวยเอาศิลาฝนหมึกทิ้งเอาโจโฉ โจโฉเห็นทำหยาบช้าก็โกรธนัก จึงสั่งให้ทหารเอาตัวมารดาชีซีไปฆ่าเสีย เทียหยกเห็นทหารเอามารดาชีซีไปจะฆ่าเสียดังนั้นก็ห้ามไว้ จึงเข้าไปว่าแก่โจโฉว่า ซึ่งมารดาชีซีหยาบช้าแก่ท่านทั้งนี้ เพราะปรารถนาจะใคร่ตายเสีย ให้ปรากฏชื่อไว้ว่าเป็นหญิงสามารถได้ว่ากล่าวหยาบช้าต่อมหาอุปราชมิได้ยำเกรง ถ้าแลท่านจะฆ่าเสียบัดนี้ ก็จะมีความครหานินทาเป็นอันมากว่าฆ่าหญิงเสียหาต้องการไม่ อนึ่งแม้มารดาชีซีตายแล้ว รู้ไปถึงชีซีก็จะมีความโกรธท่านมากขึ้น จะช่วยเล่าปี่คิดอ่านกระทำการเป็นกวดขันหวังจะแก้แค้น ขออย่าให้ฆ่าเสียเลย เอาเลี้ยงไว้ก่อน ถึงชีซีจะทำการกับเล่าปี่เบื้องหลังก็คงจะเป็นห่วงอยู่ด้วยมารดา เห็นจะไม่คิดทำการเต็มมือ ภายหลังข้าพเจ้าจะคิดอ่านทำอุบายเอาตัวชีซีมาให้จงได้ โจโฉได้ฟังดังนั้นก็เห็นชอบด้วย มิได้ให้ฆ่ามารดาชีซีเสีย จึงจัดแจงที่อยู่ให้โดยสมควร แล้วก็เลี้ยงดูไว้เป็นปรกติดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น