By thepoetry4u
thepoetry4u.blogspot.com
เช้าวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ชาวเมืองโคคุระรู้สึกได้ถึงลางร้ายที่กำลังมาเยือน เงาเมฆดำทะมึนปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง เมื่อ 3 วันก่อน เมืองฮิโรชิมาเพิ่งถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองจากระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก แต่ทว่าญี่ปุ่นยังไม่ประกาศยอมแพ้สงคราม เป้าหมายต่อไปของระเบิดปิศาจลูกที่ 2 ย่อมหนีไม่พ้นเมืองโคคุระ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอาวุธสงครามของกองทัพญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเช้าวันนั้น เครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐ ซึ่งบรรจุระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ขนาดใหญ่กว่าเดิม กำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้าเมืองโคคุระ พร้อมคำสั่งให้ระเบิดเมืองนี้ทันทีที่มีโอกาส แต่เพราะสภาพอากาศที่ดำมืดนั้นเองทำให้ไม่สามารถเล็งเป้าหมายได้ หลังจากบินวนอยู่ 3 รอบ น้ำมันในเครื่องก็ร่อยหรอลงไปทุกที จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ๆ แทน นั่นก็คือ นางาซากิ
เวลา 10.58 น. เมืองนางาซากิทั้งเมืองก็กลายเป็นจุณ ชาวเมืองกว่า 7 หมื่นคนเสียชีวิตทันที ส่วนที่เหลือกลายสภาพเป็นผีดิบ เสียชีวิตอย่างทรมานในเวลาต่อมา ภายหลังสงครามสงบ เล่ากันว่าไม่ว่าจะขุดไป ณ ตำแหน่งใดในเขตเมืองนางาซากิ ก็จะพบแต่กระดูกและซากศพ
เมืองโคคุระอาจได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โชคดีที่สุดในโลก ทุกวันนี้ ชาวเมืองยังรู้สึกใจหายวาบที่นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ลูกหลานของพวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสเกิดมาดูโลกด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีเมฆดำทะมึนช่วยปกคลุมท้องฟ้าเหนือหัวพวกเขาในวันนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น