วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 33 (ช่วงที่ 7)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่า กวนอู เตียวหุยก็ขึ้นม้าพากันไป ณ เมืองซินเอี๋ย อยู่สี่ห้าวันเล่าปี่จึงแต่งให้คนใช้ไปซับซาบดูขงเบ้ง ครั้นคนใช้กลับาบอกว่าขงเบ้งกลับมาที่อยู่แล้ว เล่าปี่จึงจัดแจงสิ่งของจะไปหาขงเบ้ง เตียวหุยจึงว่าท่านจะมาหลงนับถือว่าขงเบ้งเป็นคนมีสติปัญญา จะอุตส่าห์ทรมานกายไปหาให้ลำบากนั้นหาต้องการไม่ จะนับถืออะไรกับขงเบ้งเป็นคนบ้านนอก ข้าพเจ้าจะให้แต่ทหารไปเอามาก็จะได้ เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่า ขงเบ้งเป็นคนมีสติปัญญา เหตุใดท่านมาประมาทหยาบช้าดังนี้ ว่าแล้วก็ขึ้นม้าออกไปกับคนใช้ กวนอู เตียวหุยเห็นดังนั้นก็ขึ้นม้าตามออกไปทางประมาณสามสิบเส้น พอน้ำค้างตกลงหนาวเป็นกำลัง เตียวหุยจึงว่าเทศกาลนี้เป็นฤดูหนาว อันยามหนาวเช่นนี้แม้จะคิดอ่านทำการสงครามเอาบ้านเมืองนั้นก็ยังต้องงดไว้ ควรแล้วหรือมานับถือขงเบ้งซึ่งเป็นชาวบ้านนอกนี้หาเป็นประโยชน์ไม่ ขอท่านกลับไปเมืองก่อนเถิด

เล่าปี่จึงตอบว่า อันธรรมดาจะปรารถนาของดี ก็ย่อมประกอบด้วยความอุตส่าห์จึงจะได้ ซึ่งเราทรมานกายมาทั้งนี้ ก็ปรารถนาจะให้ได้ขงเบ้ง อนึ่งจะให้ขงเบ้งรู้ว่าเรามีความรักแลเพียรเป็นอันมาก ซึ่งตัวท่านกลัวแต่ความลำบากทนหนาวมิได้ก็ให้เร่งกลับไปในเมืองเถิด เตียวหุยจึงว่า ข้าพเจ้าคิดว่าท่านจะลำบากจึงทัดทาน เล่าปี่จึงห้ามว่า แต่นี้ไปท่านอย่าว่าฉะนี้เลย แล้วก็ขับม้าไป
ครั้นม่ถึงร้านสุราแห่งหนึ่ง ใกล้กันกับที่อยู่ขงเบ้ง จึงได้ยินเสียงคนเสพย์สุราอยู่ในบ้านนั้นพูดจาโต้ตอบกันสองคน เล่าปี่ชักม้าหยุดฟังอยู่ได้ยินถ้อยคำหลักแหลมนักก็สำคัญว่าขงเบ้ง จึงลงจากม้าเดินแอบเข้าไปฟังดูที่ประตู เห็นคนหนึ่งหน้าขาวหนวดยาว คนหนึ่งหน้าตาเข้มขันรูปร่างล่ำสันโตใหญ่ ก็เข้าไปคำนับแล้วว่า ท่านทั้งสองนี้เป็นอาจารย์หลงหรือ โจ๊ะก๋งหงวนจึงบอกว่าข้าพเจ้าไม่ใช้ขงเบ้ง ข้าพเจ้าชื่อโจ๊ะก๋งหงวนต่างหาก คนนั้นชื่อเบงคงอุย เราสองคนนี้เป็นเพื่อนรักกับขงเบ้ง เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นละอายแก่ใจก็ลาไป ครั้นถึงบ้านขงเบ้งแล้วก็ลงจากม้าเดินเข้าไปถามเด็กว่า วันนี้อาจารย์ท่านอยู่หรือไม่ เด็กจึงบอกว่า อาจารย์ข้าพเจ้านอนดูหนังสืออยู่ เล่าปี่จึงให้เด็กน้อยนั้นพาเข้าไป พอเห็นคนหนึ่งหนุ่มน้อยเดินออกมาแต่ข้างใน เล่าปี่สำคัญว่าขงเบ้งมีความยินดีนักจึงเข้าไปคำนับแล้วบอกว่า ข้าพเจ้านี้ชื่อว่าเล่าปี่ แต่ได้ยินเขาเล่าลือไปก็ช้านานแล้ว ข้าพเจ้าเป็นคนวาสนาน้อย ตั้งใจจะมาคำนับท่านก็มิรู้แห่งเลย ต่อชีซีบอกสำคัญให้ ข้าพเจ้าเสาะมาหาท่านครั้งหนึ่งแล้วก็มิพบ วันนี้มิเสียทีข้าพเจ้าตรำน้ำค้างทรมานกายมา ได้พบท่านเป็นบุญตัวนักหนา
จูกัดกิ๋นนได้ยินดังนั้นจึงว่าท่านนี้หรือชื่อเล่าปี่เป็นเชื้อสายพระเจ้าเหี้ยนเต้ ตัวข้าพเจ้านี้ชื่อจูกัดกิ๋น เป็นน้องของขงเบ้งดอก พี่น้องสามคนด้วยกัน คนหนึ่งก็ชื่อจูกัดกึ๋น เป็นพี่ผู้ใหญ่ ไปทำราชการอยู่ด้วยซุนกวน ณ เมืองกังตั๋ง เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็ละอายใจ จึงถามว่า บัดนี้พี่ท่านอยู่แห่งใดเล่า จูกัดกิ๋นจึงบอกว่าพี่ข้าพเจ้าไม่อยู่ เพื่อนมาชวนไปเที่ยวเล่นแต่เวลาเช้าแล้ว เล่าปี่จึงถามว่าพี่ท่านไปเล่นแห่งใด จูกัดกิ๋นจึงบอกว่า บางทีก็ไปเรือ บางทีก็ไปบก แลจะกำหนดว่าไปหาผู้ใดที่ตำบลใดมิได้แจ้ง เล่าปี่จึงว่า เรานี้วาสน้อยเป็นนักหนา มาหาพี่ท่านถึงสองครั้งแล้วก็มิได้พบ เป็นคนอาภัพนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น