วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 2)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


เล่าปี่เห็นขงเบ้งยิ้มอยู่ดังนั้นจึงว่าแก่ขงเบ้งว่า จงช่วยคิดอ่านให้เล่ากี๋ด้วย ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งจะให้คิดอ่านการในเรือนด้วยนั้นไม่ได้ เล่ากี๋ก็ลาออกมา เล่าปี่จึงตามออกมาส่งแล้ค่อยกระซิบสั่งเล่ากี๋ว่า เวลาพรุ่งนี้เราจะแกล้งให้ขงเบ้งไปหา เจ้าจงอ้อนวอนไต่ถามให้ขงเบ้งช่วยคิดอ่านบอกความออกจงได้ เล่ากี๋รับคำแล้วก็ลาไป
ครั้นเวลารุ่งเช้าเล่าปี่แกล้งทำป่วย แล้วหาขงเบ้งเข้ามาว่า เวลาวานนี้ เล่ากี่มาคำนับเรา วันี้เครั้นเราจะไปตามประเพณีบ้างเราก็ป่วยอยู่ ท่านจงไปแทนตัวเราหน่อยหนึ่งเถิด ขงเบ้งก็รับคำแล้วลาไปหาเล่ากี๋ คำนับกันตามธรมเนียมแล้ว เล่ากี๋จึงเล่าเนื้อความให้ขงเบ้งฟังว่า ทุกวันนี้มารดาเลี้ยงข้าพเจ้า คิดจะทำร้ายข้าพเจ้าอยู่มิได้ขาด ท่านจงเอ็นดูด้วยช่วยคิดอ่านอย่าให้มีภัยมาถึงข้าพเจ้าเลย

ขงเบ้งจึงตอบว่า ตัวข้าพเจ้าเป็นแขกมาภายนอก ซึ่งจะล่วงเข้าไปคิดอ่านการภายในให้ญาติพี่น้องท่านร้าวฉานกันนั้นไม่ควร แม้เนื้อความรู้ถึงเล่าเปียวเราก็จะไม่พ้นความผิด แล้วขงเบ้งลุกขึ้นจะลาไป เล่ากี๋จึงแกล้งลวงว่า ท่านอย่าเพ่อไป หนังสือโบราณของข้าพเจ้ามีอยู่ฉบับหนึ่ง เชิญท่านขึ้นไปดูเล่นบนหอก่อนจึงจูงมือขงเบ้งขึ้นไปบนหอสูง แล้วร้องไห้อ้อนวอนถามขงเบ้งว่า ชีวิตข้าพเจ้าจะถึงแก่ความตายเพราะมารดาเลี้ยงอยู่แล้ว เป็นไฉนท่านจึงไม่เอ็นดู ช่วยคิดอ่านให้ข้าพเจ้ารอดจากความตาย แม้ท่านไม่โปรดข้าพเจ้าก็จะถึงแก่ความตายในที่นี้ แล้วเล่ากี๋ก็ชักกระบี่ออกจะเชือดคอตาย
ขงเบ้งเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงเข้ายุดกระบี่ไว้แล้วห้ามว่า ท่านอย่าเพ่อทำอันตรายแก่ชีวิตเสียเลย ข้าพเจ้าจะช่วยคิดอ่านแก้ไขให้ท่านพ้นภัยจงได้ แล้วว่าตัวท่านก็ได้เรียนหนังสืออยู่ไม่รู้หรือ ในนิทานครั้งเจ้าสิบแปดองค์ได้ครองราชสมบัติทั้งสิบแปดหัวเมืองนั้น พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งได้ครองเมืองจิ้น พระมเหสีนั้นมีพระราชบุตรสององค์ ชื่อซินเสงหนึ่ง ตงยี่หนึ่ง แลนางลิกี๋เป็นพระสนมก็มีบุตรสององค์ ชื่อฮีเจ้หนึ่ง ต๊กจู๊หนึ่ง ครั้นอยู่มาพระมเหสีถึงแก่ความตาย ฝ่ายนางลิกี๋นั้นมีใจริษยา คิดว่านานไปแม้พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งสวรรคตราชสมบัติก็จะได้แก่ซินเสงกับตงยี่ อันลูกเราทั้งสองก็จะอยู่ในเงื้อมมือเขา จำเราจะคิดกลอุบายให้พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งฆ่าซินเสงกับตงยี่เสีย ราชสมบัติก็จะได้ตกแก่ลูกเรา
ครั้นอยู่มากลางคืนวันหนึ่ง เวลาประมาณสามยามเศษนั้น นางลิกี๋ตื่นนอนขึ้นแล้ว แสร้างทำร้องไห้ร่ำไรเป็นอันมาก พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งเห็นดังนั้นจึงตรัสถามนางลิกี๋ ว่าเหตุใดจึงร้องได้ นางลิกี๋จึงทูลว่าข้าพเจ้าฝันเห็นว่าพระมเหสีของพระองค์ซึ่งถึงแก่ความตายนั้น เดินเข้ามายังที่ข้างใน แล้วร้องไห้ร่ำว่าอดข้าวปลาอาหาร ข้าพเจ้าตื่นขึ้นให้มีความสงสารจึงร้องไห้รัก พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งมิได้รู้ในกลสตรีจึงตรัสว่า เจ้าอย่าโศกเศร้าเลย เราจะให้แต่งโต๊ะไปเซ่น มเหสีของเราก็จะได้กิน
ครั้นเวลาเช้ารับสั่งให้หาซินเสงกับตงยี่เข้ามาตรัสบอกเนื้อความทั้งปวงให้ฟัง แล้วให้เร่งแต่งโต๊ะเซ่นศพมารดา ซินเสงกับตงยี่ก็มีความสงสารจึงให้ทำตามบิดาสั่ง แล้วเอาของซึ่งเซ่นนั้นมาถวายจะให้บิดาเสวยตามธรรมเนียม ฝ่ายนางลิกี๋จึงเอายาพิษลอบใส่ลงในของทั้งปวง ครั้นพระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งจะเสวย นางลิกี๋จึงว่าพระองค์อย่าเพ่อเสวยก่อน อันของนี้ทำมาแต่ภายนอก อย่าไว้ใจเกลือกจะมีอันตราย ขอให้ชันสูตรดูก่อนจึงเสวย พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งเห็นชอบด้วย จึงให้เอานักโทษถึงตายซึ่งจำไว้ ณ คุกนั้นมากินของชันสูตรดู คนโทษนั้นกินเข้าไปก็ถึงแก่ความตาย พระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งเห็นดังนั้นก็ทรงพระโกรธจึงว่า ซินเสงกับตงยี่ใส่ยาพิษจะแกล้งฆ่าเราเสียหวังจะชิงเอาราชสมบัติ จึงสั่งขุนนางทั้งปวงให้เร่งไปจับซินเสงกับตงยี่ฆ่าเสีย ขุนนางทั้งปวงก็ออกไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น