วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 3)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ฝ่ายเล่ากี๋ผู้บุตรเล่าเปียวซึ่งไปกินเมืองกังแฮนั้น รู้ข่าวไปว่าบิดาป่วยหนักก็รีบมาเยือน ครั้นมาถึงประตู ชัวมอ เตียวอุ๋นจึงห้ามเล่ากี๋ว่า ตัวท่านนี้บิดาให้ไปอยู่รักษาเมืองกังแฮ มิได้ให้หามา แลท่านทิ้งเมืองเสียฉะนี้ แม้ซุนกวนรู้จะยกกองทัพจู่มาตีเอาเมืองกังแฮนั้นจะมิเสียหรือ อนึ่งบิดาท่านป่วยหนักอยู่ซึ่งท่านจะเข้าไปบัดนี้ ก็เห็นว่าบิดาท่านจะโกรธว่าทิ้งเมืองเสีย โรคนั้นก็จะกำเริบขึ้น เหลือกำลังก็จะถึงแก่ความตาย เหมือนท่านเอายาพิษมาเจือเข้าอีก เล่ากี๋ได้ฟังดังนั้นก็ร้องไห้รักอยู่แต่นอกประตู จะเข้าไปเยี่ยมบิดามิได้แล้วก็ขึ้นม้ากลับไปเมืองกังแฮ
ฝ่ายเล่าเปียวป่วยหนักลง ตั้งใจคอยหาเล่ากี๋ผู้บุตรมิได้เห็นมา ครั้นถึงเดือนสิบขึ้นสามค่ำ โรคนั้นกำเริบหนักไป ร้องขึ้นได้คำเดียวก็ถึงแก่ความตาย นางชัวฮูหยินเห็นว่าเล่าเปียวถึงแก่ความตายแล้ว จึงให้หาชัวมอ เตียวอุ๋นเข้ามาคิดอ่านกัน เขียนเป็นอักษรของเล่าเปียวให้ไว้ฉบับหนึ่งใจความว่า แม้เราหาบุญไม่แล้วก็ให้เล่าจ๋องรักษาแผ่นดินเมืองเกงจิ๋วสืบไปเถิด นางชัวฮูหยินจึงให้หาขุนนางเข้ามาพร้อมกัน แล้วเอาหนังสือซึ่งปลอมเขียนไว้นั้นออกมาให้ขุนนางทั้งปวงดู จึงตั้งเล่าจ๋องขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทนบิดา แล้วจัดแจงแต่งการศพเล่าเปียวตามประเพณี

ขณะนั้นเล่าจ๋องอายุได้สิบสี่ปี มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด จึงว่าแก่ขุนนางทั้งปวงว่า บิดาเราหาบุญไม่แล้ว เล่าปี่ผู้อาเราแลเล่ากี๋ผู้พี่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งท่านทั้งปวงจะตั้งเราเป็นใหญ่นั้นไม่ควร ถ้าแลเล่าปี่ เล่ากี๋มีความน้อยใจจะยกกองทัพมาทำอันตรายเรา ท่านทั้งปวงจะคิดอ่านประการใด ลีกุ๋ยซึ่งเป็นขุนนาฝ่ายพลเรือนจึงว่า ท่านว่านี้ชอบนักต้องด้วยประเพณีโบราณสืบมา ขอให้ท่านแต่งหนังสือไปเชิญเล่ากี๋ผู้พี่มาเป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋ว แล้วให้เชิญเล่าปี่มาช่วยคิดอ่านกิจการทั้งปวง จะได้ป้องกันซุนกวนแลโจโฉสืบไป
ชัวมอได้ยินดังนั้นจึงตวาดลีกุ๋ยว่า เล่าเปียวจะตายก็เขียนหนังสือให้ไว้เป็นสำคัญ เราท่านทั้งปวงก็เป็นผู้ใหญ่ช่วยกันคิดอ่านทำนุบำรุงอยู่ แลซึ่งจะให้มีหนังสือไปเชิญเล่ากี๋ เล่าปี่มานั้น คนทั้งสองนี้จะมีสติปัญญาความคิดมาเป็นประการใด ลีกุ๋ยได้ฟังดังนั้นก็ขัดใจ จึงด่าชัวมอว่ามึงเป็นคนหาสติปัญญามิได้ไม่กระทำตามขนบธรรมเนียมแต่ก่อน จัดแจงเอาเองตามอำเภอใจฉะนี้ มึงจะทำให้แผ่นดินเมืองเกงจิ๋วแลหัวเมืองทั้งเก้านี้เป็นอันตรายฉิบหาย แลตกอยู่ในเงื้อมือผู้อื่นเป็นมั่นคง แค้นใจด้วยท่านผู้มีวาสนาซึ่งตายไปนั้น มิมาหักคอเอามึงไปเสียเลย ชัวมอได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงสั่งให้เอาตัวลีกุ๋ยไปฆ่าเสีย ลีกุ๋ยก็ด่าชัวอมิได้ขาดคำ จนทหารลงดาบขาดใจตาย
เมื่อชัวมอตั้งเล่าจ๋องขึ้นเป็นใหญ่แทนเล่าเปียว แล้วจัดแจงสมัครพรรคพวกซึ่งเป็นแซ่เดียวกันนั้น ให้คุมทหารรักษาด่านางหัวเมืองเกงจิ๋วทั้งปวง แล้วให้เตียนยีกับเล่าเสี้ยน ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่อยู่รักษาเมืองเกงจิ๋ว ชัวมอก็พานางชัวฮูหยินกับเล่าจ๋อง แลขุนนางทั้งปวงไปตั้งอยู่ ณ เมืองซงหยง หวังจะได้ต่อสู้กับเล่าปี่ เล่ากี๋
ขณะนั้นม้าใช้เอาเนื้อความมาบอกว่า บัดนี้โจโฉยกกองทัพหลวงออกจากเมืองฮูโต๋จะผ่านมาทางเมืองนี้ เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ จึงปรึกษาชัวมอกับเก๊งอวดแลที่ปรึกษาทั้งปวงว่า บัดนี้โจโฉยกทัพมา ท่านทั้งปวงจะคิดอ่านป้องกันประการใด ฮูสวนจึงว่า นี่หากว่าโจโฉยกทัพมา ท่านจึงรู้จักสำนึกตัวกลัวอันตราย ถึงมาตรว่าโจโฉไม่ยกมา ดีร้ายเล่าปี่กับเล่ากี๋ก็จะยกมาเป็นมั่นคง เพราะท่านทำการละเมิดแต่ตามอำเภอใจ มิได้บอกให้เล่าปี่กับเล่ากี๋รู้ด้วย แม้เล่าปี่เล่ากี๋มีความน้อยใจ ก็จะยกกองทัพมาตีกระหนาบเข้า เห็นท่านจะได้ความเดือดร้อน กลอุบายของข้าพเจ้ามีอยู่ประการหนึ่ง แม้ท่านกระทำตามชาวเมืองทั้งปวงก็จะไม่มีอันตราย ทั้งตัวท่านก็จะได้ครองเมืองเป็นสุขสืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น