วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 36 (ช่วงที่ 1)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ขงเบ้งจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ท่านมีชัยแก่แฮหัวตุ้นครั้งนี้ ท่านอย่าเพ่อยินดีก่อน เห็นว่าโจโฉจะยกกองทัพมาตอบแทนแก้แค้นท่านเป็นมั่นคง เล่าปี่จึงถามว่า ถ้าฉะนั้นท่านจะคิดประการใดเล่า ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งเข้าพเจ้าจะคิดอ่านต่อสู้โจโฉนั้นพอจะได้อยู่ แต่มาเห็นว่าเมืองซินเอี๋ยนี้คับแคบนัก จะคิดอ่านผ่อนปรนยาก บัดนี้เล่าเปียวก็ป่วยหนักอยู่แต่ก่อนก็ได้อนุญาตว่าจะให้เมืองเกงจิ๋วแก่ท่าน ครั้งนี้ก็ได้ท่วงทีอยู่แล้ว แม้ท่านยกไปเมืองเกงจิ๋ว ถึงมาตรว่าโจโฉจะยกกองทัพมา ก็จะคิดอ่านผ่อนผันทำการรบพุ่งได้ถนัด เพราะเมืองเกงจิ๋วกว้างขวางเป็นเมืองใหญ่
เล่าปี่จึงว่า ท่านว่าดังนี้ก็ชอบอยู่ แต่ทว่าเล่าเปียวมีคุณแก่เรามาแต่ก่อนเป็นอันมาก ครั้นจะยกไปบัดนี้ก็เหมือนไปชิงเมืองท่านอยู่ ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งข้าพเจ้าว่านี้ใช่จะให้ท่านทำร้ายแก่เล่าเปียวนั้นหาไม่ อันเมืองเกงจิ๋วนั้นก็จะได้แก่ท่านเป็นมั่นคงอยู่ แม้มิยกไปตามคำข้าพเจ้า นานไปจะมีอันตราย เมื่อมีเหตุขึ้นแล้วท่านจึงจะรู้จักสำนึก เล่าปี่จึงว่า ถึงมาตรว่าจะมีอันตรายประการใดก็ดี ตัวเราก็จะสู้ตาย ซึ่งจะทรยศต่อผู้มีคุณนั้นเราทำมิได้ ขงเบ้งจึงว่า ซึ่งท่านมิเต็มใจที่จะทำตามถ้อยคำข้าพเจ้าก็ตามอัธยาศัยเถิด จึงจะคิดอ่านผ่อนผันต่อไป

ฝ่ายแฮหัวตุ้นครั้นยกไปถึงเมืองฮูโต๋ ก็มัดตัวเข้าไปหาโจโฉโดยคำนับว่า บัดนี้โทษข้าพเจ้าถึงสิ้นชีวิตแล้ว ด้วยข้าพเจ้ามีความประมาทมิได้รู้เท่ากลขงเบ้งจึงเสียทหารล้มตายเป็นอันมาก เมื่อข้าพเจ้าจะไปนั้นก็ได้สัญญาไว้ว่า ถ้าไม่ได้ตัวเล่าปี่ ขงเบ้งมาก็ให้ตัดศีรษะข้าพเจ้าเสีย ซึ่งโทษข้าพเจ้าผิดตามแต่ท่านจะทำโทษ
โจโฉเห็นแฮหัวตุ้นทำโทษตัวเข้ามาดังนั้นก็มีความเอ็นดู จึงให้แก้มัดเสียแล้วว่า ซึ่งท่านไปทำการสงครามให้เสียทีแก่ข้าศึกมาฉะนี้ โทษท่านก็ถึงตายแต่ทว่าตัวท่านมีความชอบในการสงครามมาแต่ก่อนเป็นอันมาก โทษนั้นเราจะยกไว้ครั้งหนึ่ง แล้วว่าธรรมดาชาติทหารทำการสงครามมาก็มีชนะแลแพ้ทุกคน แฮหัวตุ้นยินดีคำนับแล้วจึงว่า ข้าพเจ้ายกไปครั้งนี้อิกิ๋มแลลิเตียนก็ได้ตักเตือนให้สติอยู่ แต่ทว่าข้าพเจ้าทำการล่วงเกินดื้อดึงไป จึงเสียท่วงทีทั้งนี้เพราะประมาท
โจโฉได้ฟังดังนั้นก็ปูนบำเหน็จรางวัลแก่ลิเตียน อิกิ๋มโดยความชอบแล้วจึงว่า ทุกวันนี้เรามีความวิตกอยู่แต่เล่าปี่กับซุนกวนสองคนนี้ใหญ่หลวงนัก นอกกว่านั้นเรามิได้ปรารมภ์เลย แลบัดนี้การศึกก็ได้กระทำติดพันกันเข้าแล้ว จะคิดกำจัดเล่าปี่แลซุนกวนเสียให้จงได้ แผ่นดินจึงจะราบคาบเป็นสุขสืบไป โจโฉก็ให้เกณฑ์ทหารห้าสิบหมื่น ตั้งให้โจหยิน โจหองคุมทหารสืบหมื่นเป็นกองหนึ่ง ให้เตียวเลี้ยว เตียวคับคุมทหารสิบหมื่นเป็นกองสอง ให้แฮหัวตุ้นกับแฮหัวเอี๋ยนคุมทหารสิบหมื่นเป็นกองสาม ให้อิกิ๋มกับลิเตียนคุมทหารสิบหมื่นเป็นกองสี่ ตั้งให้เคาทูคุมทหารสามพันเป็นกองหน้าสำหรับสอดแนม แลโจโฉนั้นคุมทหารหกหมื่นเป็นกองหลวง
ขณะเมื่อโจโฉเกณฑ์กองทัพจะยกไปครั้งนั้น พระเจ้าเหี้ยนเต้เสวยราชสมบัติได้สิบสามปีแล้ว ถึงเดือนเก้าข้างขึ้นได้ฤกษ์ดี จะให้ยกกองทัพไป พอขงหยงเข้ามาว่า ซึ่งท่านจะยกกองทัพไปกำจัดเล่าปี่บัดนี้ เล่าปี่ก็เป็นเชื้อสายของพระเจ้าเหี้ยนเต้อยู่หาควรไม่ ฝ่ายซุนกวนเล่าก็ตั้งภูมิฐานลงได้เป็นมั่นคง แล้วมีเมืองเอกขึ้นถึงหกหัวเมือง ทหารทั้งปวงก็พรักพร้อม แลทางจะไปนั้นก็กันดาร ซึ่งมหาอุปราชจะยกไปนั้น เกลือกมิได้ท่วงทีก็จะเสียทหารเป็นอันมาก ขอท่านจงดำริดูจงควรก่อน
โจโฉได้ฟังดังนั้นจึงตอบว่า ซึ่งท่านมาห้ามเรามิให้ยกไปกำจัดเล่าปี่ ซุนกวนนั้นมิชอบ ด้วยคนสองคนนี้หามีความกตัญญูไม่ แล้วก็ขับขงหยงเสียว่า ท่านอย่าได้มาเจรจาดังนี้สืบไป ถ้ามิฟังเราจะตัดศีรษะเสีย ขงหยงเห็นโจโฉโกรธขับดังนั้น ลุกออกมาพ้นแล้วจึงทอดใจใหญ่ว่า มหาอุปราชนี้เป็นคนหาตั้งอยู่ในสัตย์ไม่ แม้จะขืนยกไปกระทำแก่ผู้มีสัตย์สุจริต น่าที่ก็จะเป็นอันตรายไปเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น