วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 35 (ช่วงที่ 3)

By Thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com


ในขณะนั้นคนสนิทจึงรีบออกไปบอกเนื้อความแก่ซินเสง ตงยี่ตามรับสั่งแลตงยี่ผู้น้องแจ้งดังนั้นจึงปรึกษาแก่ซินเสงผู้พี่ว่า บัดนี้ภัยมาถึงตัวเข้าแล้ว เราจะหนีเอาตัวรอดก่อน ซินเสงจึงตอบว่า ตัวเราเป็นบุตร พระราชบิดาจะให้ลงโทษถึงตาย ครั้นจะหนีไปให้พ้นภัยนั้น ก็เหมือนหนึ่งหากตัญญูต่อบิดามิได้ ประการหนึ่งเล่า ธรรมดาผู้เป็นเสนาบดีซึ่งเป็นข้าราชการนั้น ทำความผิดสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ดีแม้พระมหากษัตริย์จะลงโทษ แลจะหนีซึ่งราชทัณฑ์นั้นไม่ควร เหมือนคนมิได้มีสัตย์ซื่อต่อพระมหากษัตริย์ อันตัวพี่นี้จะขอเข้าไปรับราชอาญากว่าจะสิ้นชีวิตตงยี่ได้ฟังซินเสงผู้พี่ว่าดังนั้นก็ว่า ตัวข้าพเจ้าไม่ยอมตายเลย แล้วก็รีบหนีออกไปจากเมือง ฝ่ายซินเสงก็เข้ามา ครั้นขุนนางพบก็จับเอาตัวไปฆ่าเสียตามรับสั่ง

ครั้นอยู่มาพระเจ้าจิ้นเฮียนก๋งสวรรคต ฮีเจ้กับต๊กจู๊ได้เสวยราชสมบัติอยู่สิบเก้าปี ฝ่ายตงยี่ซึ่งหนีไปอยู่นอกแดนนั้น ซ่องสุมทหารได้เป็นอันมาก แล้วยกกองทัพกลับมาตีเอาเมืองจับฮีเจ้กับต๊กจู๊ฆ่าเสีย ตงยี่ก็ได้เสวยราชสมบัติแทนบิดามา แลนิทานนี้ท่านก็แจ้งอยู่ว่า ซึ่งจะอยู่ในเมืองนั้นก็ย่อมมีอันตรายฉะนี้ ซึ่งไปอยู่นอกเมืองนั้นก็กลับได้ดีภายหลัง อันเมืองกังแฮนั้นก็ว่างเปล่าอยู่ ท่านจงคิดอ่านอ้อนวอนเล่าเปียวผู้เป็นบิดาขอไปอยู่รักษาเมืองกังแฮดีกว่า แล้วอุตส่าห์กระทำความเพียรให้เหมือนตงยี่นั้น ภายหน้าก็จะมีความสุขสืบไป เล่ากี๋ได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีจึงคุกเข่าคำนับแล้วว่า ซึ่งท่านชี้แจงให้นี้คุณหาที่สุดมิได้ ข้าพเจ้าจะขอคิดอ่านทำตามคำท่าน ขงเบ้งก็ลาเล่ากี๋มาหาเล่าปี่ บอกเนื้อความให้ฟังทุกประการ
ครั้นเวลารุ่งเช้าเล่ากี๋จึงเข้าไปว่าแก่บิดาว่า บัดนี้ซุนกวนก็ฆ่าหองจอเสียแล้ว อันเมืองกังแฮก็ว่างเปล่าอยู่ ข้าพเจ้าจะขอไปรักษาไว้ เล่าเปียวยังมิได้ตอบประการใดจึงให้หาเล่าปี่มาปรึกษาตามคำเล่ากี๋ เล่าปี่จึงว่า อันเมืองกังแฮนั้นก็เป็นที่คับขันอยู่ ซึ่งเล่ากี๋จะขอไปรักษาอยู่นั้นก็ควรนัก ด้วยเป็นเมืองชายทะเล อันซุนกวนจะยกมาได้ง่าย ขอท่านกับเล่ากี๋ช่วยกันรักษาอย่าให้ข้าศึกล่วงมาได้ ฝ่ายเหนือข้างทางโจโฉจะยกมานั้นเป็นพนักงานของข้าพเจ้าจะรับป้องกัน แล้วเล่าปี่ก็ลาเล่าเปียวกลับไปเมืองซินเอี๋ย ขณะนั้นเล่าเปียวจึงจัดทหารสามพันให้เล่ากี๋คุมไปรักษาเมืองกังแฮ
ฝ่ายโจโฉครั้นได้สุมาอี้มาไว้เป็นที่ปรึกษา แลสุมาอี้นั้นเป็นบุตรสุมาหองเจ้าเมืองโฮโล่ โจโฉนั้นมีใจกำเริบให้หาขุนนางแลทหารมาปรึกษาว่า จะยกกองทัพไปตีหัวเมืองชายทะเลให้อยู่ในเงื้อมมือเราจงสิ้น ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใด แฮหัวตุ้นจึงว่า บัดนี้ข้าพเจ้าได้ยินกิตติศัพท์ว่า เล่าปี่อยู่ ณ เมืองซินเอี๋ยซ่องสุมผู้คนแล้วซ้อมหัดทหารให้ชำนาญไว้เป็นอันาก ถ้าจะละไว้นานไป จะกำจัดเล่าปี่นั้นขัดสน ขอให้เร่งแต่งกองทัพไปตีเมืองซินเอี๋ยเสียก่อนแล้วจึงคิดการต่อไป โจโฉเห็นชอบด้วย จึงให้แฮหัวตุ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ ให้ลิเตียน อิกิ๋ม แฮหัวอัน ฮันโฮ นายทหารสี่คนนี้เป็นปลัดทัพ คุมทหารสิบหมื่น จะให้ยกไปตีเมืองซินเอี๋ย ชีซีจึงว่าแก่แฮหัวตุ้นว่า ท่านจะไปทัพครั้งนี้อย่าประมาทดูเบาแก่เล่าปี่ ด้วยเล่าปี่ได้ขงเบ้งมาไว้เป็นที่ปรึกษา อุปมาเหมือนเสืออันคะนองอยู่ในป่าใหญ่ ท่านเร่งระวังตัวจงดี
โจโฉได้ฟังดังนั้นก็คิดสงสัยอยู่จึงถามว่า ขงเบ้งนั้นคือผู้ใด ชีซีจึงบอกว่า ขงเบ้งนั้นคือจูกัดเหลียง แลขงเบ้งคนนี้มีสติปัญญา การในอากาศแลแผ่นดินก็รู้ดูชำนาญสิ้น เสมอเทพดาเข้าดลใจ โจโฉจึงถามว่าขงเบ้งมีสติปัญญานั้นจะเปรียบกับตัวท่านใครมีภาษีกว่ากัน ชีซีจึงว่า อันความคิดของข้าพเจ้านี้อุปมาเหมือนหนึ่งหิ่งห้อย อันสติปัญญาขงเบ้งดังหนึ่งรัศมีพระจันทร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น