thepoetry4u.blogspot.com
เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็ตกใจจึงอ้อนวอนขอตัวว่า
ซึ่งท่านจะตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นเจ้าเมืองเฉงจิ๋วนั้น คุณมหาอุปราชหาที่สุดมิได้
ซึ่งข้าพเจ้าอุตส่าห์ออกมาคำนับท่านทั้งนี้
ใช่จะมีความปรารถนาเป็นเจ้าบ้านผ่านเมืองนั้นหามิได้
ข้าพเจ้าจะขอเป็นแต่ไพร่อยู่ในเมืองเกงจิ๋วนี้
จะได้รักษาศพของบิดาแลญาติทั้งปวงตามประเพณี ขอท่านได้กรุณาแก่ข้าพเจ้าเถิด
โจโฉจึงว่า ซึ่งเราจะให้ท่านไปอยู่เมืองเฉงจิ๋วบัดนี้ด้วยความเอ็นดูท่าน
เห็นว่าเมืองเฉงจิ๋วนั้นกับเมืองหลวงใกล้กันท่านจะได้เข้าเฝ้าแหนพระเจ้าเหี้ยนเต้
ประการหนึ่งท่านจะอยู่ในเมืองเกงจิ๋วนี้ไกลพระเจ้าเหี้ยนเต้
แลเป็นที่เบียดเบียนแก่คนทั้งปวงจะอยู่มิสบาย จะได้ความเดือดร้อนเมื่อปลายมือ
เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็กลัวโจโฉ
ขัดมิได้ซังตายรับคำนับแล้วลาพามารดาไปเมืองเฉงจิ๋ว ครั้นถึงฝั่งน้ำท่าข้ามขุนนางทั้งปวงซึ่งไปส่งนั้นก็อำลากลับาสิ้น
แต่อองอุ้ยนั้นติดตามเล่าจ๋องไป
ขณะเมื่อเล่าจ๋องออกไปจากเมืองแล้ว
โจโฉจึงสั่งอิกิ๋มว่า ท่านจงคุมทหารรีบไปสกัดฆ่าเล่าจ๋องเสีย
อิกิ๋มก็คุมทหารรีบตามไป
ครั้นทันเล่าจ๋องจึงร้องว่าบัดนี้มหาอุปราชใช้ให้เราตามมาฆ่าท่านแม่ลูกทั้งสองเสีย
ท่านอย่าวุ่นวายไปเลยจงนิ่งให้เราตัดศีรษะไปให้มหาอุปราชเสียโดยดีเถิด
นางชัวฮูหยินได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ แม่ลูกกอดคอกันเข้าไว้ก็ร้องไห้
อองอุ้ยเห็นดังนั้นก็มีความโกรธ จึงกลับหน้าเข้ามาจะต่อสู้
อิกิ๋มก็ให้ทหารจับเอาตัฆ่าเสีย แล้วก็ตัดศีรษะนางชัวฮูหยินแลเล่าจ๋องนั้นกลับมาให้แก่โจโฉ
โจโฉก็ให้บำเหน็จรางวัลแก่อิกิ๋ม แล้วสั่งให้ทหารไปจับเอาครอบครัวขงเบ้ง ณ
ตำบลเขาโงลังกั๋ง ทหารทั้งปวงก็รีบไปค้นหาครอบครัวขงเบ้งก็มิได้พบ
แล้วก็กลับมาบอกแก่โจโฉ โจโฉมีความแค้นกำเริบมิรู้วาย
ขณะเมื่อขงเบ้งจะยกไปจากเมืองซินเอี๋ยนั้น เกรงโจโฉจะทำร้ายแก่ครอบครัว
จึงยักเอาไปซ่อนไว้ ณ ตำบลสำกั๋ง ทหารจึงค้นมิพบ
ฝ่ายซุนฮิวจึงว่าแก่โจโฉว่า
เมืองกังเหลงนั้นเป็นที่มั่นคงนัก แลเสบียงอาหารก็ซ่องสุมไว้เป็นอันมาก
ถ้าแลเล่าปี่ไปตั้งได้เราจะตาไปทำการรบพุ่งก็จะขัดสน จะเอาชัยชนะยาก โจโฉจึงตอบว่า
ท่านว่าก็ชอบ ใช่ว่าจะลืมนั้นหาไม่
เราคิดอยู่แลเราจะให้ทหารรีบล่วงหน้าไปเข้าตีเอาเมืองกังเหลงให้ได้ก่อน
โจโฉจึงให้เอาบัญชีพลทหารของเล่าจ๋องมาตรวจดู ขาดอยู่คนหนึ่งชื่อว่าบุนเพ่ง
โจโฉจึงให้คนไปหาตัว พอพบบุนเพ่งเข้ามาคำนับจึงถามว่า แต่เรามาอยู่ในเมืองซงหยงนี้ก็หลายวันแล้วเหตุใดตัวจึงหลบหลีกอยู่มิได้มาหาเรา
บุนเพ่งจึงว่า ข้าพเจิ้ได้มาหาท่านนั้นใช่จะหลบลี้อยู่หามิได้
ด้วยข้าพเจ้าเกิดมาเป็นชาติทหาร
มิได้ทำการอาสาเจ้าให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุขนั้นข้าพเจ้ามีความอายนัก
จึงมิได้มาหาท่าน ว่าแล้วก็ร้องไห้ โจโฉได้ฟังดังนั้นก็ชอบใจ ชมว่าเป็นคนสัตย์ซื่อ
จึงตั้งให้บุนเพ่งเป็นเจ้าเมืองกังแฮ
แล้วให้คุมทหารบรรดามีกำลังอันกล้าแข็งนั้นห้าพันยกรีบไปตามเล่าปี่
โจโฉก็ยกกองทัพหลวงหนุนไป
ฝ่ายขงเบ้งจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า
อันครอบครัวมาทั้งนี้ถึงสามหมื่นสี่หมื่น มีทหารเกณฑ์รบอยู่แต่สามพันน้อยตัวนัก
แลท่านก็เดินเคร่าครอบครัวอยู่ฉะนี้กองทัพโจโฉก็ยกติดตามกระชั้นใกล้เข้ามาแล้ว
ซึ่งท่านให้กวนอูไปขอคน ณ เมืองกังแฮมาช่วย
แต่วันไปคุ้มเท่าบัดนี้กำหนดเดือนหนึ่งแล้ว จะได้มิได้ก็ยังไม่กลับมา
ร้ายแลดียังมิได้รู้เลย จะทำประการใด เล่าปี่จึงว่า ถ้าฉะนั้นท่านอย่าเห็นแก่เหนื่อยเลย
อุตส่าห์ไปเองหน่วยหนึ่งเถิ ด้วนท่านได้มีคุณแก่เล่ากี๋ไว้แต่ก่อน
เล่ากี๋เห็นท่านไปเองแล้วจะเสียมิได้จะจัดแจงผู้คนทหารทั้งปวงให้
ขงเบ้งรับคำแล้วก็ลาเล่าปี่
แล้วพาเล่าฮองไปด้วยเป็นสองนายคุมทหารห้าร้อยรีบไปเมืองกังแฮ
แลเมื่อเล่าปี่กับบิต๊ก
บิฮอง กันหยงพาครอบครัวอพยพมาวันนั้น
ก็เกิดลมหัวด้วนพัดหอบเอาผลคลีฟุ้งตลบขึ้นไปตรงหน้าม้า เล่าปี่ตกใจจึงถามบิต๊ก
บิฮอง กันหยงว่า เหตุดังนี้จะดีแลร้ายประการใด กันหยงจึงจับยามดู
แล้วบอกแก่เล่าปี่ว่า เหตุเป็นทั้งนี้ร้ายนักเวลากลางคืนวันนี้ภัยจะมาหาถึงท่านเป็นมั่นคง
ขอให้ท่านทิ้งครอบครัวอพยพเสีย รีบหนีไปก่อนเอาตัวรอดเถิด เล่าปี่จึงว่า
เสียแรงได้หอบหิ้วคนทั้งปวงมาแต่เมืองซินเอี๋ยจนถึงที่นี่แล้ว
แลจะทิ้งเสียเอาตัวรอดนั้นเรามิรู้ที่จะทำได้ กันหยงจึงว่า
ถ้าท่านมิฟังคำข้าพเจ้าภัยก็จะมาถึงตัว เล่าปี่จึงถามว่าหนทางซึ่งไปข้างหน้าชื่อตำบลใด
ทหารทั้งปวงบอกว่า ไปข้างหน้านี้จะเข้าแดนเมืองตงหยง
มีเขาใหญ่เขาหนึ่งชื่อว่าเกงสัน
เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นก็พาครอบครัวรีบเดินไปถึงเขาเกงสัน
จึงให้ครอบครัวทั้งปวงตั้งชุมรุมอยู่ริมเนินเขาแลครั้งนั้นเป็นฤดูหนาวกำลังหนาวนัก
แลอาณาประชาราษฎรทั้งปวงเดินมาเจ็บป่วยเป็นอันมาก
ก็ร้องไห้ระงมไปทั้งเสียงเด็กแลเสียงผู้ใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น