วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

"สามก๊ก" ตอนที่ 37 (ช่วงที่ 1)

By thepoetry4u

thepoetry4u.blogspot.com

ฝ่ายโจโฉครั้นมาถึงเมืองอ้วนเซียแล้ว ก็รีบพาทหารทั้งปวงข้ามมาเมืองซงหยง จึงให้คนเข้าไปหาเล่าจ๋องออกมา ชัวมอกับเตียวอุ๋นจึงว่าแก่เล่าจ๋องว่ามหาอุปราชมาถึงเมืองแล้ว ให้เข้ามาหาท่านออกไปบัดนี้ ก็ควรจะออกไปคำนับตามประเพณี อองอุ้ยผู้เป็นที่ปรึกษาค่อยกระซิบว่าแก่เล่าจ๋องว่า แต่ก่อนถึงท่านจะได้อ่อนน้อมต่อโจโฉแล้วก็จริง แลบัดนี้เล่าปี่ก็หนีโจโฉไปมิได้ต่อสู้ เห็นว่าโจโฉครั้งนี้จะมีใจทะนงนัก มิได้จัดแจงที่จะรักษาตัวเป็นกวดขันเหมือนแต่ก่อนเห็นจะประมาทอยู่ ขอท่านได้จัดแจงทหารให้พรักพร้อม แล้วลอบยกไปจับเอาตัวโจโฉเห็นจะได้โดยง่าย ถ้าได้ตัวโจโฉแล้วปัญญาแลความคิดของท่านก็จะปรากฏแก่คนทั้งปวง แลท่านก็จะเป็นที่ยำเกรงด้วย ซึ่งจะคิดทำการใหญ่สืบไปภายหน้าก็เห็นจะสำเร็จ เล่าจ๋องจึงเอาถ้อยคำของอองอุ้ยบอกแก่ชัวมอ
ชัวมอได้แจ้งดังนั้นก็ให้หาอองอุ้ยเข้ามาแล้วว่า ตัวเองนี้มิได้รู้จักลักษณะแผ่นดินที่จะฉิบหายแลจะเจริญ เหตุใดจึงอาจเจรจาดังนี้ อองอุ้ยได้ฟังชัวมอว่าดังนั้นก็โกรธ จึงว่าอ้ายศัตรูขายเจ้า เมื่อไรกูได้กินเนื้อมึงจึงจะหายความแค้น ชัวมอได้ยินอองอุ้ยว่าดังนั้นก็สั่งทหารให้เอาตัวไปฆ่าเสีย เก๊งอวดจึงห้ามปรามขอไว้ ชัวมอจึงพาเตียวอุ๋นออกไปหาโจโฉถึงริมฝั่งน้ำท่าข้าม โจโฉจึงถามว่า ในแว่นแคว้านหัวเมืองเกงจิ๋วนี้มีเสบียงอาหารแลไพร่พลเมืองทั้งปวงมากน้อยเท่าใด ชัวมอจึงบอกว่ามีทหารม้าห้าหมื่น ทหารเดินเท้าสิบห้าหมื่น ทหารเรือแปดหมื่นเข้ากันเป็นยี่สิบแปดหมื่น แลเสบียงอาหารนั้นได้เก็บซ่องสุมรวมไว้ในเมืองกังเหลงเป็นอันมาก ถ้าประมาวลกันเข้ากับหัวเมืองทั้งปวงนั้น จะกินได้ประมาณปีหนึ่ง
โจโฉจึงถามว่า เรือรบมีอยู่สักกี่ลำ ผู้ใดบังคับบัญชาว่ากล่าว ชัวมอจึงบอกว่า เรือรบใหญ่น้อยมีอยู่เจ็ดพันเศษ อยู่ในบังคับบัญชาข้าพเจ้าทั้งสองคนนี้สิ้น โจโฉได้แจ้งดังนั้นก็มีความยินดี จึงตั้งให้ชัวมอ เตียวอุ๋นเป็นนายกองทัพเรือ แล้วว่าบัดนี้เล่าเปียวก็ถึงแก่ความตายแล้ว แลฝ่ายเล่าจ๋องผู้บุตรก็มาอ่อนน้อมต่อเรา เราก็จะทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ช่วยทำนุบำรุงให้กินเมืองเกงจิ๋วสืบไป ชัวมอ เตียวอุ๋นได้ฟังดังนั้นก็มีความชื่นชมนัก จึงคำนับแล้วลามา
ซุนฮิวจึงว่าแก่โจโฉว่า ชัวมอกับเตียวอุ๋นสองคนนี้ เป็นคนประจบประแจงสอพลอ ยังมิทันเห็นน้ำใจเหตุไฉนท่านจึงตั้งแต่งให้เป็นนายกองทัพเรือนั้นยังกระไรอยู่ โจโฉหัวเราะแล้วจึงตอบว่า ตัวเราไม่รู้จักน้ำใจคนนั้นจะทำการไปได้หรือ ประการหนึ่งทหารเราจัดเจนแต่ทางบกไม่ชำนาญในการเรือ เราทำทั้งนี้ปรารถนาจะเอาใจไว้ จะได้ฝึกสอบทหารเราให้สันทัด แล้วกำจัดเสียเมื่อปลายมือ จะยากง่ายอะไรเล่า
ฝ่ายชัวมอ เตียวอุ๋นก็เอาเนื้อความมาบอกแก่เล่าจ๋อง ตามถ้อยคำโจโฉว่าทุกประการ เล่าจ๋องได้แจ้งดังนั้นก็มีความยินดี จึงเอาเนื้อความไปแจ้งแก่นางชัวฮูหยินผู้เป็นมารดา ครั้นเวลาเช้าก็แต่งข้าวของสำหรับซึ่งจะคำนับนั้นเสร็จแล้วเล่าจ๋องกับนางชัวฮูหยินก็ออกมาหาโจโฉ เอาตราสำหรับว่าราชการเมืองนั้นออกมาด้วย คำนับแล้วก็มอบให้แก่โจโฉ โจโฉมีความยินดีนัก ก็ยกทหารทั้งปวงไปตั้งอยู่นอกเมืองซงหยง
ชัวมอ เตียวอุ๋นก็จุดธูปเทียนคำนับรับโจโฉ เชิญให้โจโฉเข้าเมือง โจโฉจึงหาเก๊งอวดมาแล้วว่า ตัเราได้เมืองเกงจิ๋วบัดนี้ ใช่จะมีความยินดีหามิได้ ซึ่งเราได้ตัวท่านนี้มีความยินดียิ่งกว่าได้เมืองเกงจิ๋วอีก แล้วก็ตั้งเก๊งอวดเป็นเจ้าเมืองกังเหลง จึงให้ฮูสวน อองซานเป็นที่ขุนนางผู้ใหญ่ ตั้งให้เล่าจ๋องเป็นเจ้าเมืองเฉงจิ๋ว แล้วก็เร่งให้รีบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น